รองเท้าบุรุษเป็นดาวเด่นของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายในสหราชอาณาจักร
เป็นที่คาดว่า รองเท้าบุรุษจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นที่สูงที่สุด คือ ร้อยละ 2.6 ของตลาดเครื่องแต่งกายในสหราชอาณาจักร ระหว่างปี 2023-2028 จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาย สำหรับรองเท้าวิ่งและเสื้อผ้าสไตล์ธรรมดาทั่วไป
รองเท้าวิ่งคาดว่า จะยังคงเป็นรองเท้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุด โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น 2.4% ระหว่างปี 2023-2028
Credit: Vivobarefoot
รายงานตลาดเครื่องแต่งกายของสหราขอาณาจักรจนถึงปี 2028 ตีพิมพ์โดย GlobalData ระบุว่า รองเท้าวิ่งคาดว่าจะยังคงสถานะ “รองเท้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุด” โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น คิดเป็นร้อยละ 2.4 ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จากการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อความสบายและการใช้งานที่หลากหลาย โดยแบรนด์รองเท้า Vivobarefoot กำลังเข้าสู่เทรนด์ดังกล่าวด้วยรองเท้าที่หมุนเวียน
โดยรวม คาดว่ารองเท้าบุรุษจะเป็นดาวเด่น แต่รองเท้าสตรีก็คาดว่าจะเติบโตเช่นกัน ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นที่ร้อยละ 2.4 ส่วนรองเท้าเด็กคาดว่าจะเติบโตช้ากว่า หรือเพียงร้อยละ 1.2 จากอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลง
Credit: GlobalData
รองเท้าและรองเท้าบู้ทจะเติบโตเล็กน้อย โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นที่ร้อยละ 2.2 จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นใหม่สำหรับรองเท้าทางการและรองเท้าไปทำงาน ส่วนรองเท้าแตะ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นต่ำที่ร้อยละ 0.6 ซึ่งสะท้อนความต้องการที่ลดลงของรองเท้าสวมใส่สบายอยู่กับบ้านหลังโควิด-19
การวิเคราะห์ของ GlobalData ระบุว่า การหมุนเวียน (circularity) กล่าวมาเป็นหัวข้อหลักของอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องแต่งกาย ระหว่างเดือนพฤษภาคม ปี 2022 - พฤษภาคม ปี 2024 ส่วนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและธรรมาภิบาลก็เป็นหัวข้อที่สำคัญเช่นกัน
Credit: GlobalData
Vivobarefoot ผู้ผลิตรองเท้าของสหราชอาณาจักร ได้เปิดตัวรองเท้าแบบเท้าเปล่า (barefoot footwear) ที่ระบุว่า ใช้วิธีสแกนเป็นพิมพ์ที่หมุนเวียน (circular) เป็นครั้งแรก ด้วยระบบ Vivobiome โดยแนวคิดดังกล่าวให้ผู้บริโภคสแกนเท้าของตัวเองด้วยโทรศัพท์มือถือ และเลือกขนาดที่ต้องการ โดยใช้อุปกรณ์ฉายภาพด้วยระบบดิจิทัลเพื่อให้ตรงตามขนาด ชื่อ Vivobiome ซึ่งผู้บริโภคสามารถหาขนาดเท้าที่ต้องการได้ทั้งแนวกว้างและแนวยาว
กระบวนการผลิตของ Vivobarefoot ใช้ระบบ Selective Laser Sintering ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ทำจากผงเพื่อผลิตพื้นรองเท้าด้านนอกสุดของรองเท้าแบบเท้าเปล่าที่คงทนและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งกระบวนการผลิตแบบเติมเนื้อเข้าไป (additive manufacturing process) นี้ จะทำให้สามารถผลิตสิ่งที่ต้องการ และในเวลาที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยลดขยะได้เป็นอย่างมาก
Vivobarefoot เน้นประโยชน์ของกระบวนการถักหมุนเวียนที่สร้างรูปเท้า 3 มิติขึ้นมาอย่างไร้ตะเข็บจากส่วนรองเท้าด้านบนชิ้นเดียว ซึ่งจะช่วยลดขยะเพิ่มความรู้สึกของเท้าเปล่าและเพิ่มการใช้งาน
Vivobarefoot มองว่า การบูรณาการการพิมพ์ 3 มิติเข้ากับวัสดุล้ำยุคทำจากพืชเป็นวิธีที่จะแก้ไขปัญหาขยะรองเท้าเพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการผลิตตามสั่ง ยืดอายุผลิตภัณฑ์ผ่านการที่แบรนด์ใช้ข้อมูลของลูกค้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด และทำให้ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วมีการหมุนเวียนที่เห็นชัดเมื่อหมดอายุการใช้งาน
บริษัทฯ อธิบายว่า ในอนาคตอันใกล้ จะสามารถผลิต Vivobiome ตามคำสั่งซื้อและตามการวัดขนาด รวมทั้งจะสามารถผลิตในพื้นที่ และผลิตเพื่อสามารถนำไปผลิตใหม่
รองเท้า Vivobiome คู่แรก คือ Hybrid Wing ซึ่งขายในราคาขายปลีก 260 ปอนด์ (327.19 เหรียญฯ) และมาพร้อม 2 สี คือ สีแดง Obsidian/Origin Red และสีน้ำเงิน Obsidian Origin Blue ซึ่งเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น โดยมีรองเท้าเพียง 1,000 คู่ต่อสี
อนึ่ง สถาบัน Apparel Impact Institute ได้ตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณ 100 ล้านตัน ออกจากห่วงโซ่อุปทานของรองเท้าและเครื่องแต่งกาย ภายในปี 2030
-------------------------------------------
Source: JustStyle.com
Photo credit: Vivobarefoot and GlobalData