สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2561
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2561 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 9.61 (ร้อยละ 15.25 ในหน่วยของเงินบาท) หรือมีมูลค่า 10,195.06 ล้านเหรียญสหรัฐ (325,646.18 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่า 11,279.41 ล้านเหรียญสหรัฐ (384,257.01 ล้านบาท) นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 3 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.82 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำพบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 6,495.34 ล้านเหรียญสหรัฐ (207,652 ล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าเติบโตสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 7.85 (ร้อยละ 1.15 ในหน่วยของเงินบาท)
รายการ |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง ร้อยละ |
||
ม.ค.-ต.ค. 60 |
ม.ค.-ต.ค. 61 |
ม.ค.-ต.ค. 60 |
ม.ค.-ต.ค. 61 |
||
มูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด |
11,279.41 |
10,195.06 |
100.00 |
100.00 |
-9.61 |
หัก มูลค่าส่งออกทองคำฯ |
5,257.07 |
3,699.72 |
46.61 |
36.29 |
-29.62 |
คงเหลือมูลค่าการส่งออกที่ไม่รวมทองคำฯ |
6,022.34 |
6,495.34 |
53.39 |
63.71 |
7.85 |
หัก มูลค่าสินค้าส่งกลับจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และอื่นๆ |
387.34 |
417.21 |
3.43 |
4.09 |
7.71 |
คงเหลือมูลค่าส่งออกสุทธิ |
5,635.00 |
6,078.13 |
49.96 |
59.62 |
7.86 |
ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
เมื่อแยกพิจารณาการส่งออกในรายผลิตภัณฑ์สำคัญพบว่า
สินค้าสำเร็จรูป เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน และเครื่องประดับแพลทินัม ขยายตัวร้อยละ 10.65, ร้อยละ 6.43 และร้อยละ 0.88 ตามลำดับ
สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เติบโตร้อยละ 5.86,
ร้อยละ 4.09 และร้อยละ 7.73 ตามลำดับ
ตลาด/ภูมิภาคสำคัญในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำ) ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2561 ได้แก่ ฮ่องกง ซึ่งมีมูลค่าลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.23 อันเป็นผลจากการส่งออกสินค้าสำคัญอย่างเครื่องประดับเงินได้ลดลงร้อยละ 37.68 ในขณะที่ส่งออกเพชรเจียระไน เครื่องประดับทอง พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.42, ร้อยละ 1.29, ร้อยละ 0.26 และร้อยละ 7.41 ตามลำดับ
ตลาดหลักรองลงมาเป็นสหภาพยุโรปเติบโตสูงขึ้นร้อยละ 11.67 เนื่องมาจากการส่งออกไปตลาดหลักใน 3 อันดับแรกอย่างเยอรมนี เบลเยียม และสหราชอาณาจักร ซึ่งขยายตัวร้อยละ 19.34, ร้อยละ 2.89 และร้อยละ 0.90 ตามลำดับโดยการส่งออกไปยังเยอรมนีเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดีทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูงขึ้น และเต็มใจที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อเครื่องประดับ จึงทำให้ไทยส่งออกสินค้าหลักอย่างเครื่องประดับเงินไปยังเยอรมนีได้เพิ่มขึ้น ส่วนเบลเยียม นำเข้าเพชรเจียระไนจากไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งจำหน่ายในประเทศและอีกส่วนหนึ่งส่งออกต่อต่างประเทศตามความต้องการบริโภคเพชรเจียระไนของตลาดโลกที่มีเพิ่มสูงขึ้น สำหรับการส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรที่เติบโตได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินปอนด์ที่ยังคงอ่อนค่า ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลง จึงดึงดูดใจผู้มีกำลังซื้อให้ซื้อเครื่องประดับมากขึ้น ไทยจึงส่งออกเครื่องประดับทอง ซึ่งเป็นสินค้าหลักไปยังสหราช-อาณาจักรได้เพิ่มสูงขึ้น
อีกหนึ่งตลาดหลักส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ดีคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าเติบโตร้อยละ 15.12 ที่แม้ว่าในไตรมาสที่ 3 จะมีบางตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แผ่วลงไปบ้าง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงสดใส ชาวอเมริกันจึงมีความเชื่อมั่นในการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอัญมณีและเครื่องประดับ สะท้อนให้เห็นจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ในทิศทางบวก และเติบโตสูงในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปีนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2543 (ผลสำรวจของ Conference Board) มีผลให้ไทยส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการไปยังตลาดนี้ได้เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง พลอยเนื้อแข็งเจียระไน และเพชรเจียระไน
สำหรับตลาดส่งออกที่โดดเด่นและเติบโตได้ดีต่อเนื่องคือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเป็นผลมาจากการส่งออกไปยังหลายตลาดได้สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นอิสราเอล กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย ตุรกี และคูเวต ตลาดในอันดับ 2, 3, 4, 5 และ 6 โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังอิสราเอลเป็นเพชรเจียระไน ส่วนสินค้าหลักส่งออกไปยังกาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย ตุรกี และคูเวต เป็นเครื่องประดับทอง ในขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลาดอันดับ 1 ปรับตัวลดลง เนื่องมาจากการส่งออกเพชรเจียระไน ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญรองลงมาได้ลดน้อยลงมาก ในขณะที่การส่งออกเครื่องประดับทอง ซึ่งเป็นสินค้าหลักยังสามารถเติบโตได้
อาเซียนก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ขยายตัวได้ จากการส่งออกไปยังสิงคโปร์ ตลาดที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดในภูมิภาคนี้ โดยสินค้าส่งออกหลักเป็นเครื่องประดับเทียม ซึ่งเติบโตได้ดีจากการขับเคลื่อนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่น อีกทั้งไทยยังสามารถส่งออกไปยังเวียดนาม ตลาดในอันดับ 3 ได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังเวียดนามคือ อัญมณีสังเคราะห์ รองลงมาเป็นเพชรเจียระไน และโลหะเงิน ที่ล้วนเติบโตได้เป็นอย่างดี ส่วนการส่งออกไปยังมาเลเซีย ที่อยู่ในอันดับ 2 ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากการส่งออกสินค้าหลักอย่างเครื่องประดับเงิน และสินค้าสำคัญลำดับถัดมาอย่างเครื่องประดับทองได้ลดลงมาก
ประเทศ/ภูมิภาค |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) |
||
ม.ค.-ต.ค.60 |
ม.ค.-ต.ค.61 |
ม.ค.-ต.ค.60 |
ม.ค.-ต.ค.61 |
||
ฮ่องกง |
1,866.47 |
1,862.17 |
30.99 |
28.67 |
-0.23 |
สหภาพยุโรป |
1,257.40 |
1,404.18 |
20.88 |
21.62 |
11.67 |
สหรัฐอเมริกา |
1,002.25 |
1,153.78 |
16.64 |
17.76 |
15.12 |
กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง |
404.69 |
467.07 |
6.72 |
7.19 |
15.41 |
อินเดีย |
264.91 |
282.37 |
4.40 |
4.35 |
6.59 |
จีน |
172.91 |
233.10 |
2.87 |
3.59 |
34.81 |
ญี่ปุ่น |
191.80 |
196.18 |
3.18 |
3.02 |
2.28 |
อาเซียน |
171.18 |
182.28 |
2.84 |
2.81 |
6.49 |
ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก |
185.49 |
165.43 |
3.08 |
2.55 |
-10.82 |
รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช |
51.07 |
52.93 |
0.85 |
0.81 |
3.63 |
อื่นๆ |
454.18 |
495.86 |
7.54 |
7.63 |
9.18 |
รวม |
6,022.34 |
6,495.34 |
100.00 |
100.00 |
7.85 |
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ