สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2561
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561มีมูลค่าเติบโตร้อยละ 0.62 (ลดลงร้อยละ 8.78 ในหน่วยของเงินบาท) หรือมีมูลค่า 6,326.68 ล้านเหรียญสหรัฐ (199,434.12 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่า 6,287.40 ล้านเหรียญสหรัฐ (218,637.71 ล้านบาท) นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 3 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.03 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย โดยมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องมาจากการส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการได้สูงขึ้น ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำพบว่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 3,863.98 ล้านเหรียญสหรัฐ (121,791.96 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 7.48 (ลดลงร้อยละ 2.41 ในหน่วยของเงินบาท)
รายการ |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง |
||
ม.ค.-มิ.ย.60 |
ม.ค.-มิ.ย.61 |
ม.ค.-มิ.ย.60 |
ม.ค.-มิ.ย.61 |
ร้อยละ |
|
มูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด |
6,287.40 |
6,326.68 |
100.00 |
100.00 |
0.62 |
หัก มูลค่าส่งออกทองคำฯ |
2,692.32 |
2,462.70 |
42.82 |
38.93 |
-8.53 |
คงเหลือมูลค่าการส่งออกที่ไม่รวมทองคำฯ |
3,595.08 |
3,863.98 |
57.18 |
61.07 |
7.48 |
หัก มูลค่าสินค้าส่งกลับจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และอื่นๆ |
257.48 |
301.29 |
4.10 |
4.76 |
17.01 |
คงเหลือมูลค่าส่งออกสุทธิ |
3,337.60 |
3,562.69 |
53.08 |
56.31 |
6.74 |
ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
เมื่อแยกพิจารณาการส่งออกในรายผลิตภัณฑ์สำคัญ พบว่า
1) สินค้าสำเร็จรูป เครื่องประดับทอง และเครื่องประดับแพลทินัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.38 และร้อยละ 0.23 ตามลำดับส่วนเครื่องประดับเงิน ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.22
2) สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เติบโตได้ร้อยละ 6.17, ร้อยละ 2.66 และร้อยละ 10.57 ตามลำดับ
ตลาด/ภูมิภาคสำคัญในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำ) ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ได้แก่ ฮ่องกง ตลาดหลักที่มีสัดส่วนสูงสุดราวร้อยละ 28 ซึ่งมีมูลค่าลดลงร้อยละ 2.43 เนื่องจากการส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการได้ลดลง โดยเฉพาะสินค้าหลักอย่างเพชรเจียระไน รวมถึงสินค้าสำคัญรองลงมาอย่างเครื่องประดับทอง และพลอยเนื้อแข็งเจียระไน ได้ลดลงร้อยละ 0.53, ร้อยละ 5.65 และร้อยละ 2.66 ตามลำดับ ตลาดหลักลำดับถัดมา คือสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องร้อยละ 15.47 และร้อยละ 10.29 ตามลำดับสืบเนื่องมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ภูมิภาคโดยสินค้าส่งออกหลักไปยังสหภาพยุโรปเป็นเครื่องประดับเงิน รองลงมาเป็นเครื่องประดับทอง ที่ต่างมีมูลค่าสูงขึ้น ส่วนสินค้าส่งออกหลักไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นเครื่องประดับเงิน ซึ่งกลับมาเติบโตเป็นบวกได้อีกครั้ง อีกทั้งการส่งออกเครื่องประดับทอง พลอยเนื้อแข็งเจียระไน และเพชรเจียระไน สินค้าสำคัญรองลงมา ล้วนขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนตลาดอื่น ๆ ที่เติบโตได้ดี เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลางปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 15.33 โดยการส่งออกกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเครื่องประดับทอง ขยายตัวสูงต่อเนื่องในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และคูเวต ซึ่งเป็นคู่ค้าใน 5 อันดับแรกของไทย
สำหรับการส่งออกไปยังอินเดีย ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 26.22 อันเป็นผลจากการส่งออกเพชรเจียระไนที่เติบได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.53 โดยส่วนหนึ่งเป็นการส่งออกจากบริษัทอินเดียที่มาตั้งโรงงานในไทยกลับไปยังบริษัทแม่เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่อต่างประเทศ
การส่งออกไปยังอาเซียนเติบโตร้อยละ 6.91 จากการส่งออกไปยังสิงคโปร์ ตลาดอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคนี้ได้เพิ่มขึ้น โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังสิงคโปร์เป็นเครื่องประดับเทียมซึ่งเติบโตได้สูงมากถึงร้อยละ 54.12 รวมถึงการส่งออกไปยังบรูไน และเวียดนาม ตลาดในอันดับ 3 และ 4 ก็สามารถขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังบรูไนเป็นเครื่องประดับทอง ส่วนสินค้าส่งออกหลักไปยังเวียดนามเป็นโลหะเงินและเพชรเจียระไน ที่ล้วนเติบโตได้เป็นอย่างดี
ส่วนมูลค่าการส่งออกไปยังรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.98 เนื่องจากการส่งออกไปยังรัสเซีย ยูเครน และคาซัคสถาน ตลาดหลักใน 3 อันดับแรกของไทยได้เพิ่มสูงขึ้น โดยสินค้าดาวเด่นเป็นเครื่องประดับเงิน ซึ่งเติบโตได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความนิยมสินค้าของไทยในตลาดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ประเทศ/ภูมิภาค |
มูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สัดส่วน (ร้อยละ) |
เปลี่ยนแปลง |
||
ม.ค.-มิ.ย.60 |
ม.ค.-มิ.ย.61 |
ม.ค.-มิ.ย.60 |
ม.ค.-มิ.ย.61 |
(ร้อยละ) |
|
ฮ่องกง |
1,122.76 |
1,095.42 |
31.23 |
28.35 |
-2.43 |
สหภาพยุโรป |
717.31 |
828.31 |
19.95 |
21.44 |
15.47 |
สหรัฐอเมริกา |
620.15 |
684.00 |
17.25 |
17.70 |
10.29 |
กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง |
258.57 |
298.22 |
7.19 |
7.72 |
15.33 |
อินเดีย |
141.21 |
178.24 |
3.93 |
4.61 |
26.22 |
ญี่ปุ่น |
112.71 |
117.27 |
3.14 |
3.04 |
4.05 |
จีน |
103.19 |
104.14 |
2.87 |
2.70 |
0.92 |
อาเซียน |
89.59 |
95.78 |
2.49 |
2.48 |
6.91 |
ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก |
100.26 |
90.20 |
2.79 |
2.33 |
-10.03 |
รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช |
30.88 |
38.90 |
0.86 |
1.01 |
25.98 |
อื่นๆ |
298.45 |
333.51 |
8.30 |
8.63 |
11.75 |
รวม |
3,595.08 |
3,863.98 |
100.00 |
100.00 |
7.48 |
ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สิงหาคม 2561
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ