หนึ่งใน keyword ที่เราได้ยินกันจนติดหูว่าเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ ก็คือคำว่า “นาโนเทคโนโลยี” คำที่ใช้เรียกเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัย ที่เมื่อนำมาใช้แล้ว จะสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดความแตกต่าง ใช้แรงหรือต้นทุนที่น้อยลงแต่ได้ผลผลิตที่มากขึ้นหรือสูงค่าขึ้น และเมื่อนึกถึงประเทศที่เป็นแหล่งรวมวิชานาโนเทคโนโลยี เราก็มักจะคิดถึงประเทศใกล้ตัวอย่างญี่ปุ่น หรือไกลตัวแต่คุ้นชื่อกันมานานอย่างเยอรมนีหรือสหรัฐอเมริกา ยักษ์ใหญ่ในสายเทคโนโลยี อย่างไรก็ดี ยังมีอีกประเทศหนึ่งที่ก็ถือเป็นขุมพลังของ “นาโนเทคโนโลยี” ในหลากหลายแขนงเช่นกัน และที่สำคัญ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีราคาไม่ไกลเกินเอื้อมด้วย ประเทศที่ว่านี้ก็คือ “สาธารณรัฐเช็ก” ประเทศใจกลางทวีปยุโรปที่มีประวัติศาสตร์ของการเป็นชนชาติวิศวกรรมมายาวนานหลายศตวรรษ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเยอรมนีแห่งโลกยุโรปตะวันออก
แม้ว่าทุกวันนี้ ผู้ประกอบการในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อ “เช็ก” มากนัก แต่หากย้อนไป 20-30 ปีก่อน เป็นที่รู้กันดีในยุคนั้นว่า เครื่องจักรของเช็กนั้น ทั้งทันสมัยและทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งที่ผ่านมา เช็กไม่ได้หยุดยั้งการพัฒนา และปัจจุบันก็ได้ก้าวเข้าสู่โลกของ “นาโนเทคโนโลยี” อย่างเต็มภาคภูมิ มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา เช็กยังเป็นประเทศอียูในกลุ่มยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกที่ใช้งบประมาณ R&D per capita สูงที่สุดด้วย โดยใช้งบประมาณทั้งปีไปสูงถึง 3,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเดินหน้าเต็มกำลังไปสู่เป้าหมายการเป็น Czech Republic 4.0
ที่น่าสนใจก็คือ การพัฒนาเทคโนโลยีของเช็กนั้น มุ่งเน้นให้มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกระบวนการผลิต เพื่อให้งานวิจัยไม่ได้เป็นแค่ตัวอักษรบนกระดาษ แต่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ในช่วง 3-4 ปีมานี้ ถือได้ว่าเป็นช่วงที่นาโนเทคโนโลยีในเช็กเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัทเช็กหลายแห่งโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับ ทั้งในยุโรปและในระดับสากล โดยเทคโนโลยีหลายอย่างที่บริษัทเหล่านี้นำมาใช้ ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด เฉียบคมชนิดเป็นเทคโนโลยี cutting edge ของวงการ
‘Czech is Nano’ คือ motto ที่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ผู้ผลิต และเจ้าของกิจการในเช็กจำนวนหนึ่งกำลังยึดถือเป็นแนวทางของการพัฒนา มีสมาคมนาโนเทคโนโลยีของเช็กเป็นผู้รวมกลุ่มและขับเคลื่อน เลื่อนวงล้อของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปในแวดวงต่างๆ เช่น สิ่งทอ เทคโนโลยีชีวภาพ การทำความสะอาดอากาศและน้ำ นาโนไฟเบอร์ เวชภัณฑ์นาโน สิ่งพิมพ์นาโน เมมเบรนนาโน เครื่องสำอางนาโน เครื่องนอนไร้ฝุ่น ของเล่นกันภูมิแพ้ การเก็บรักษาพลังงาน และการบริหารสิ่งปฏิกูล เป็นอาทิ
ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อไม่นานมานี้ คือการเปิดตัวแบตเตอรี่ที่ใช้ชื่อว่า “3D Nano Battery” แบตเตอรี่ชนิดนี้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย รวมถึงในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและใช้ในบ้านอยู่อาศัยโดยเชื่อมโยงกับแผงพลังงานแสงอาทิตย์ กักเก็บพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาร์จไฟได้รวดเร็วขึ้น มีความปลอดภัยสูง ไม่ระเบิด และผ่านการทดลองแล้วว่าจะยิงจะทุบก็ไม่เสื่อมสภาพ คุณงามความดีอีกประการคือ เรื่องของต้นทุนการผลิต โดยแบตเตอรี่ขนาด 1 KWh ในท้องตลาดปัจจุบันนั้น มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 200-300 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ 3D Nano Battery นี้ใช้ต้นทุนไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น เมื่อนำไปใช้ในอุปกรณ์หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งแบตเตอรี่มักเป็นตัวแปรที่ทำให้มีมูลค่าสูง ก็จะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้อย่างน่าชื่นใจ โดยผู้ผลิตยืนยันด้วยว่า ต้นทุนที่ลดลงนี้ไม่ได้ประนีประนอมกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยแม้แต่น้อย ล่าสุด บริษัทจีนก็ได้แสดงความสนใจที่จะทุ่มลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่นี้ด้วยแล้ว กระนั้นก็ดี โดยที่แบตเตอรี่ชนิดนี้มีอนาคตที่สดใสยิ่งนัก แผนการผลิตจึงยังเปิดกว้าง พร้อมรับการลงทุนอื่นๆ มาเพิ่มเติมเสริมทัพด้วย ล่าสุดได้ยินมาว่า นาย Elon Musk เจ้าของรถ Tesla ที่มีชื่อก้องโลกถึงกับสั่งลูกน้องคนสนิทให้บินมาชมแบตเตอรี่ตัวนี้แล้ว
มาต่อกันที่อีกสักหนึ่งตัวอย่าง เป็นการนำนาโนไฟเบอร์ที่เรียกว่า “Nano Cotton” มาผลิตผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน โดยใช้เทคโนโลยีการสร้างสิ่งทอแบบแซนด์วิชด้วยการนำนาโนไฟเบอร์มาสอดไส้ไว้ตรงกลางระหว่างใยฝ้ายที่ทอหุ้มไว้ ดังนั้น จึงให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบายเช่นฝ้าย แต่สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างครบวงจร สอดคล้องกับแนวโน้มที่คนยุคนี้จะเผชิญกับอาการภูมิแพ้มากขึ้น ดังที่องค์การอนามัยโลกเคยประเมินไว้ว่า ภายใน 2-3 ปีนี้ ครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศ OECD รวมถึงประเทศอุตสาหกรรมในเอเชียจะประสบปัญหาภูมิแพ้ การผลิตเครื่องนอนชนิดนี้ ไม่เพียงแต่จะเหมาะกับการใช้ในห้องนอนเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปถึงธุรกิจที่เชื่อมโยงกันได้ด้วย เช่น การสร้างโซนปลอดฝุ่นในโรงแรมสำหรับผู้พักอาศัยที่เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ หรือการนำไปใช้ในโรงพยาบาลเพื่อสุขอนามัยขั้นสูงสุดของคนไข้ เป็นต้น เช็กยังคงมุ่งหน้าพัฒนานาโนเทคโนโลยีในสาขาอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และขยายไปสู่แวดวงที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อาจก้าวหน้าไปถึงขั้นที่สามารถผลิตอวัยวะนาโน เพื่อใช้ในร่างกายมนุษย์ได้ด้วย
ที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ นาโนเทคโนโลยีส่วนใหญ่ในเช็กเป็นของบริษัท SMEs ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิบัตรหรือลิขสิทธิ์ทางปัญญาเอง และบริษัทเหล่านี้ก็อยู่ในระยะที่ต้องการขยายกิจการไปในระดับสากลหรือไปสู่ภูมิภาคใหม่ๆ อย่างเอเชีย ทำให้มีทัศนคติที่เปิดกว้างสำหรับทั้งการร่วมทุนและการจำหน่ายนาโนเทคโนโลยี ในราคาที่เป็นมิตร เพราะฉะนั้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางเปี่ยมศักยภาพที่ธุรกิจไทยสามารถร่วมมือและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของเช็กได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และเพิ่มพลังในการก้าวไปสู่การผลิต ยุคไทยแลนด์ 4.0
ที่มา: http://globthailand.com/czech_0001/