TH
10 บริษัทแฟชั่นที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก
"บริษัทแฟชั่นที่สร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่สุดในปี 2024 ได้แก่ Circ, Skims, Canada Goose และ Citizens of Humanity บริษัทเหล่านี้โดดเด่นในด้านเทคโนโลยี ความยั่งยืน และมี style"
Fast Company’s 2024 Most Innovative Fashion Companies featured Circ, Canada Goose, Skims and Citizens of Humanity for their strides in sustainability, tech and style. Credit: Shutterstock
การผลิตและค้าปลีกแฟชั่นในปี 2024 ให้ความสำคัญกับ "ราคาที่เหมาะสม" และ "ความยั่งยืน" มากที่สุด โดยมีบริษัทแฟชั่น 10 แห่งติดอันดับบริษัทที่สร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ตามดัชนีประจำปีของ Fast Company
Parkwood Entertainment บริษัทผู้สร้างสรรค์เวิลด์ทัวร์สุดตระการตาของ Beyoncé อย่าง "Renaissance World Tour" คว้าอันดับ 16 บนลิสต์บริษัทนวัตกรรมประจำปี 2024 จาก Fast Company ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้กลายเป็นปรากฏการณ์แฟชั่นระดับโลก แฟนเพลงทั่วโลกต่างมุ่งหน้าสู่ Instagram เพื่อชื่นชมชุดสุดอลังการของ Queen Bey และค้นหาว่าใครเป็นผู้ออกแบบ ตลอดทั้งทัวร์ Beyoncé สวมใส่ชุดที่ออกแบบพิเศษให้กว่า 140 ชุด จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ อาทิ Pucci, Balmain และ Loewe ซึ่งมากกว่าแค่ความสวยงามบนเวที คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังกลายเป็นกระแสไวรัลในสื่อต่าง ๆ โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง Launchmetrics ได้ประเมินมูลค่าสื่อสัมพันธ์ (media impact value) ของทัวร์นี้ สูงถึง 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าทัวร์ Eras Tour ของ Taylor Swift ที่อยู่ที่ 97.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระแสความฮือฮาครั้งนี้ ส่งผลต่อยอดขายให้กับแบรนด์แฟชั่นที่ร่วมออกแบบชุดให้กับ Beyoncé โดยเว็บไซต์ของเหล่าดีไซน์เนอร์ต่างมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจบการทัวร์
Fast Company ขนานนาม Jonathan Anderson ผู้กำกับฝ่ายสร้างสรรค์ของ Loewe ว่ามีรสนิยมแฟชั่นแบบ "เหนือจริง (surrealist)" ซึ่งในบทวิเคราะห์ระบุว่า เขาได้เปลี่ยนโฉมแบรนด์แฟชั่นหรูหราสไตล์สเปนให้กลายเป็นแบรนด์สุดฮอตแห่งยุคด้วยเทคนิคสร้างสรรค์แปลกใหม่ เช่น การสวมเสื้อไหมพรมที่เหมือนกราฟิกความละเอียดต่ำจากวิดีโอเกมยุค 90 ลุคเหล่านี้ “เสียดสีความไร้สาระของโลกแฟชั่นยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแนวหรูหราแบบ quiet luxury หรือโลกเสมือนจริงอย่าง metaverse" ด้วยกระบวนการอันแยบยล จึงทำให้ Loewe ก้าวข้ามชื่อเสียงแบรนด์นอกกรอบแฟชั่นและนำไปสู่การสร้างอิทธิพลต่อวัฒนธรรมในวงกว้าง
3. Skims
Skims แบรนด์ชุดกระชับสัดส่วนของ Kim Kardashian กำลังมาแรงสุด ๆ โดยติดอันดับบริษัทนวัตกรรมประจำปี 2024 จาก Fast Company ด้วยเหตุผลที่ "ผลักดันให้ชุดชั้นในผู้ชายกลายเป็นที่สนใจ" นอกจากนี้ Skims ยังขยายไลน์สินค้าไปสู่เสื้อผ้าสำหรับใส่อยู่บ้านอีกด้วย ทั้งนี้ ช่วงฤดูร้อนในปีที่ผ่านมา แบรนด์ Skims ซึ่งมีมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนมูลค่า 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแฟชั่นต่างแนะนำให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาจับตลาด shapewear เพิ่มมากขึ้น เพราะมีโอกาสในการเติบโตเป็นอย่างมาก
4. Rimowa
ในยุคโซเชียลมีเดียการเดินทางกลายเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนชื่นชอบ นักท่องเที่ยวต่างพากันแชร์ภาพกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือแบรนด์เนมสุดหรูผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Snapchat และ Instagram พร้อมแคปชั่นยอดฮิต #catchflightsnotfeelings (โฟกัสที่การเดินทาง ไม่ใช่ความรู้สึก) แบรนด์ Rimowa เข้าใจเทรนด์นี้เป็นอย่างดี จึงได้ออกแบบกระเป๋าเดินทางที่มีความหรูหราและเหมาะสำหรับการถ่ายรูปลงโซเชียลอย่างแท้จริง กระเป๋าเดินทางอลูมิเนียมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Rimowa ได้รับการปรับโฉมใหม่ในคอลเลกชันที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนต ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกได้ไม่แพ้รุ่นคลาสสิค สีสันสดใสของกระเป๋าคอลเลกชันนี้ยังเพิ่มความสนุกสนานและสไตล์ให้กับการเดินทางอีกด้วย
5. Canada Goose
บริษัทที่สร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่สุดประจำปี 2024 จาก Fast Company ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ดีไซน์เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้วย โดย Canada Goose เป็นบริษัทแฟชั่นสัญชาติแคนาดาที่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตสินค้าไปสู่กลุ่ม "วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" (Preferred Fibres and Materials: PFMs) มากกว่า 75% ในปี 2023
PFMs ครอบคลุมวัสดุที่รีไซเคิลได้ เป็นวัสดุจากธรรมชาติ (ออร์แกนิก) สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และผลิตจากพืช ทั้งนี้ Canada Goose มุ่งมั่นที่จะกำจัดสารสารเพอร์และโพลีฟลูออโรอัลคิล PFAS (per-and polyfluoroalkyl substances) ออกจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทั้งนี้ ภายในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2024 สินค้าทุกชิ้นที่ผลิตในแคนาดาจะปลอดสาร PFAS และภายในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2024 สินค้าทุกชิ้นที่ผลิตในยุโรป อาทิ เสื้อกันฝน เสื้อที่ผลิตจากผ้าถัก และเสื้อผ้าแฟชั่น จะปลอดสาร PFAS เช่นกัน นอกจากนี้ Canada Goose ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานลงเกือบ 45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยการลงทุนในใบรับรองพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกที่สนับสนุนพลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการปรับปรุงโรงงานผลิต
6. Larroude
แบรนด์ Larroude ติดอันดับบริษัทแฟชั่นที่สร้างสรรค์และเป็นนวัตกรรมที่สุดของ Fast Company เนื่องจากสร้างโอกาสในการเข้าถึงรองเท้าระดับพรีเมี่ยมได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับแบรนด์หรูอย่าง Jimmy Choo และ Manolo Blahnik ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ เหล่าเซเลบริตี้ระดับแนวหน้าอย่าง Taylor Swift และ Naomi Biden ยังสวมใส่รองเท้าแบรนด์นี้อีกด้วย นอกจากนี้ ภายในระยะเวลา 2 ปีแรกของการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ Larroude สามารถจำหน่ายรองเท้าได้มากกว่า 100,000 คู่ โดยรองเท้าของ Larroude มีราคาอยู่ระหว่าง 200-300 ดอลลาร์สหรัฐ และมีฐานการผลิตอยู่ในบราซิล ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ก่อตั้งแบรนด์ และเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งแรกที่เปิดดำเนินการในปี 2023 นั่นเอง
7. Todd Snyder
Todd Snyder ได้รับการยกย่องว่าเป็น “แบรนด์เสื้อผ้าบุรุษชั้นนำของอเมริกัน” โดย Fast Company ระบุว่า Todd Snyder “กำลังสร้างแบรนด์อย่างยิ่งใหญ่โดยการปรับสไตล์อเมริกันคลาสสิกให้ทันสมัยเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภครุ่นมิลเลนเนียลได้ง่ายขึ้น” นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีการ “ผลักดันเป็นอย่างมากสำหรับการค้าปลีกแบบมีหน้าร้าน” ซึ่งรวมถึงการเปิดสาขา 7 แห่งในเมืองต่าง ๆ เช่น Atlanta และ Washington โดยมีอีก 18 สาขาที่จะเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2024 และมีแผนขยายตลาดต่างประเทศในปี 2025 ทั้งนี้ หน้าร้านของแบรนด์มีบริการสั่งตัดตามขนาด (made-to-measure services) ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างได้รายจากบริการรูปแบบนี้คิดเป็น 10-20% ของรายได้ในแต่ละสาขาของแบรนด์
8. Citizens of Humanity
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคแฟชั่นยุคใหม่ต่างให้ความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ มีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อเสื้อผ้ามากขึ้น คำนึงถึงความยั่งยืน ต้องการข้อมูลที่โปร่งใสถึงที่มาของเสื้อผ้า อาทิ ตั้งแต่แหล่งผลิต บุคคลที่ผลิต และสภาพแวดล้อมในการผลิต เป็นต้น และ Citizens of Humanity สามารถตอบโจทย์กระแสดังกล่าวได้เป็นอย่างดีด้วยการสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบ farm-to-garment สำหรับฝ้ายฟื้นฟูระบบนิเวศน์ในระดับที่อุตสาหกรรมแฟชั่นไม่เคยมีมาก่อน โดย Fast Company ระบุว่า “ในปี 2023 Citizens of Humanity ได้เปิดตัวกางเกงยีนส์รุ่นแรกที่ผลิตจากฝ้ายฟื้นฟูระบบนิเวศน์ จำนวน 1 ล้านตัว พวกเขาคัดเลือกและทำงานร่วมกับเกษตรกรชาวอเมริกัน 11 ราย โดยลงทุนสนับสนุนฟาร์มของเกษตรกรเหล่านี้ เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม ไปสู่การเพาะปลูกแบบฟื้นฟูระบบนิเวศน์ ซึ่งช่วยดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศและกักเก็บไว้ใต้ดิน ซึ่งฝ้ายที่ได้จากการเพาะปลูกแบบฟื้นฟูระบบนิเวศน์ 1.8 ล้านตัน ถูกนำมาผลิตเป็นกางเกงยีนส์ที่โรงงานของ Citizens of Humanity ในแคลิฟอร์เนีย” ซึ่ง Fast Company ยกย่องแนวทางนี้ว่าเป็น "แนวทางที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น เนื่องจากแบรนด์ส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วมถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ"
9. Hill House Home
‘ความสบายที่มาพร้อมสไตล์ : เทรนด์ใหม่ที่ฮิตติดลมบน’ หลังช่วงวิกฤตการณ์ Covid-19 ในปี 2020 ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับความสบายและความสะดวกสบายมากขึ้น แบรนด์อย่าง Hill House Home เล็งเห็นเทรนด์นี้และต่อยอดความต้องการดังกล่าว จึงได้สร้างสรรค์ “เดรสใส่นอน” ที่ผสมผสานความสบายเข้ากับ “feminine” เข้าไว้ด้วยกัน โดย Fast Company ระบุว่า เดรสสไตล์ดังกล่าว ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและกลายเป็นไอเท็มเลียนแบบยอดฮิตที่แบรนด์แฟชั่นฟาสต์แฟชั่นและ Everlane ก็ต่างหยิบไปออกแบบ ปัจจุบัน Hill House Home กำลังขยายไลน์สินค้า ซึ่งยังคงยึดหลักการออกแบบเดิมนั่นคือ ‘ความสบาย’ โดยปรับภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ตอบสนองความต้องการความสบายในปัจจุบันผ่านผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่มีดีไซน์สวยงาม เช่น รองเท้าและเสื้อผ้าชั้นนอก (outerwear) ต่าง ๆ
10. Circ
ทั้งนี้ Fast Company ยกย่องให้ ‘Circ’ เป็นผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (circularity) ในวงการแฟชั่น โดยเทคโนโลยีนี้สามารถแยกคืนวัสดุต้นทางที่ใช้ในผ้าผสมโพลีคอตตอน ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยปกติแล้วผ้าประเภทนี้ใช้เวลานานถึง 200 ปีในการย่อยสลายตามธรรมชาติ แต่เทคโนโลยีของ Circ สามารถแยกเส้นใยเหล่านี้กลับคืนมาเป็นเส้นใยใหม่ได้ซ้ำ ๆ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างความยั่งยืนให้กับวงการแฟชั่น
และเมื่อปี 2022 Inditex บริษัทแม่ของแบรนด์ Zara และ Bershka ได้ร่วมลงทุนมูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ สนับสนุน Circ ในการขยายโรงงานรีไซเคิลผ้าผสมโพลีคอตตอน ซึ่งมีเป้าหมายในการนำเสื้อผ้าเก่ากลับมาใช้ใหม่และลดปัญหาขยะเสื้อผ้า หลังจากนั้นไม่นาน Zara ก็ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงที่ผลิตจากเส้นใยรีไซเคิล โดยอาศัยเทคโนโลยีของ Circ ในการแยกคืนเส้นใยโพลีเอสเตอร์และคอตตอนจากเสื้อผ้าเก่า นำกลับมาผลิตเป็นวัตถุดิบใหม่
และ Circ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังร่วมกับ Vivobarefoot ผู้ผลิตรองเท้าเพื่อพัฒนารองเท้าแบบ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยทั้ง 2 บริษัทกำลังร่วมกันออกแบบ “หน้ารองเท้า” ที่สามารถนำไปรีไซเคิลหรืออัพไซเคิลได้
-------------------------------------
Source: JustStyle.com
Photo credit: Shutterstock
