ความสามารถปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ต้องอาศัยความความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้บริโภค และภาครัฐผู้บังคับใช้กฏระเบียบ โดยมุ่งเน้นในประเด็นที่มีความสำคัญ เช่นการบังคับใช้กฏระเบียบเกี่ยวกับการจัดการของเสียจากอุตสาหกรรมและครัวเรือน การควบคุมการปล่อยของเสียทั้งอากาศ น้ำและกากให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งแนวทางสำคัญได้แก่
1.การหลีกเลี่ยง วัตถุดิบหรือกระบวนการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2.การลด ปริมาณการใช้วัตถุดิบ ทั้งทรัพยากรการผลิต และปริมาณการบริโภคที่เกินความจำเป็น
3.การนำกลับมาใช้ใหม่
มนุษย์ สิ่งทอ และสิ่งแวดล้อมมีปฏิสัมพันธ์กันในตลอดวัฎจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ ดังนี้
การผลิต |
การใช้งาน |
การกำจัด |
ผลิตเส้นใย ปั่นด้าย ทอ/ถักผ้า ฟอกย้อมตกแต่งสำเร็จ ตัดเย็บ |
การสวมใส่, การซักล้าง, การทำให้แห้ง |
รีไซเคิล การย่อยสลาย การฝังกลบ |
การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ Life-cycle Analysis
เป็นวิธีการประเมินเชิงปริมาณของการใช้ทรัพยากร มลพิษที่เกิดขึ้นและผลกระทบสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากการผลิต ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยพิจารณาตลอดวัฎจักรชีวิต ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการนำไปกำจัด
การประเมินวัฎจักรชีวิตนั้นมีขั้นตอนหลัก 4 ขั้นตอน คือ
1.การกำหนดเป้าหมายและขอบเขต (Goal and Scope)
2.การวิเคราะห์บัญชีรายการด้านสิ่งแวดล้อม (Life Cycle Inventory) (ตัวอย่างตามตาราง)
3.การประเมินผลกระทบตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Impact Assessment)
4.การแปรผล (Interpretation)
อุตสาหกรรมสิ่งทอเริ่มให้ความสำคัญกับการประเมิน LCA เพราะจะช่วยให้ระบุโอกาสที่จะประหยัดวัตถุดิบและพลังงาน เป็นประโยชน์ต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและผลประกอบการที่ดีขึ้น ซึ่งการประเมิน LCA ได้พัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของอนุกรมมาตรฐาน ISO14000 การจัดการสิ่งแวดล้อม
Life-cycle Analysis |
||
ปัจจัยนำเข้า |
การผลิต |
ผลต่อสิ่งแวดล้อม |
วัตถุดิบที่ต้องการ |
สินค้าสำเร็จรูป เช่น เสื้อ กางเกง ถุงเท้า |
|
วัตถุดิบหลัก เส้นใย เส้นด้าย ผ้าผืน |
ของเสีย ของเสียเฉพาะ ผลพลอยได้ที่ทำประโยชน์ได้ เศษวัสดุ |
|
วัตถุดิบสนับสนุน สีย้อม สารทำละลาย น้ำมัน ไขมัน สารหล่อลื่น และเคมีอื่นๆ |
||
บรรจุภัณฑ์ |
||
วัสดุสำนักงาน |
||
วัตถุดิบอื่นๆ |
การใช้งาน |
|
โรงงาน |
การใช้ที่ดิน |
|
น้ำ |
นำ้เสีย |
|
อากาศ |
อากาศเสีย |
|
พลังงานเพื่อการผลิต การขนส่ง (น้ำมัน ถ่านหิน ไฟฟ้า) |
การกำจัด |
ของเสีย ฝุ่น เสียง ที่เกิดจากการใช้พลังงาน พลังงานสูญเปล่า และการนำกลับมาใช้ใหม่ |
ที่ดิน |
ความเครียดต่อพื้นดิน |
การผลิตเส้นใยธรรมชาติต้องการใช้ระบบชลประทาน การใช้ที่ดิน การใช้ปุ๋ย และการกำจัดศัตรูพืช ทั้งหมดเป็นความเสี่ยงที่จะลดคุณภาพของดินและมีสารปนเปื้อนในน้ำใต้ดินหากไม่มีระบบการป้องกันที่ดี ด้านการผลิตเส้นใยประดิษฐ์ ทั้งที่ใช้วัสดุธรรมชาติและปิโตรเคมี เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานมาก กระบวนการปั่นทอถ้ก ก็ต้องใช้สารเคมีเพื่อการหล่อลื่นและปกป้องวัตถุดิบ โดยเฉพาะกระบวนการตกแต่งสำเร็จที่จำเป็นต้องใช้สารเคมีเพื่อการย้อมสีและการเพิ่มคุณภาพสินค้า
กระบวนการทุกขั้นตอนมีความเสี่ยงในการปล่อยสารปนเปื้อนที่อันตรายสู่สิ่งแวดล้อม และในหลายขั้นตอนยังก่อมลพิษทางเสียง ฝุ่นควัน อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั่วโลกได้ใช้ระบบขนส่งทางราง ทางถนน และทางเรืออย่างกว้างขวาง และยังใช้วัตถุดิบเพื่อบรรจุภัณฑ์สำหรับการขนส่งและการจัดแสดงในพื้นที่ค้าปลีกเป็นจำนวนมาก
มาตรการที่สามารถนำมาใช้มีหลายแนวทาง ทั้งการปรับปรุงระบบเกษตร ใช้พืชทางเลือก ระบบจัดการแมลงศัตรูพืชโดยไม่ใช้สารเคมี ควบคุมระดับการใช้ปุ๋ยและชลประทานอย่างคุ้มค่าลดการใช้น้ำ และการปรับปรุงกระบวนการผลิต ใช้พลังงานทดแทน ใช้สารย่อยสลายได้ รวมถึงการปรับปรุงระบบการผลิตให้เป็นเทคโนโลยีสะอาดทั้งระบบ
การสวมใส่
อันตรายที่เกิดจากการสวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายพบได้น้อย อาจมีบ้างในโลหะหนักประเภทนิเกิลที่อยู่ในกระดุมและเครื่องเกาะเกี่ยว หรือสีย้อมบางประเภทที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ (อนุพันธ์จาก benidine) ทำใ้ห้มีแนวทางการบ่งขึ้ระดับของสารอันตรายที่เรียกว่า Eco-labelling เพื่อกำกับและอนุญาตให้มีสารเคมีไม่เกินระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
การดูแลรักษา
การซักอบรีดและการซักแห้งเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงาน น้ำ และสารเคมี สารฟอกขาว (oxidants, fluorescents) และสารปรับค่ากรดด่าง (phosphates) ซึ่งสารเหล่านี้เพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติจะส่งผลถึงการเติบโตของพืข ปัจจุบันน้ำยาซักผ้าจึงมักทดแทนสารอันตรายด้วยเคมีที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ส่วนการซักแห้งซึ่งใช้สาร hydrocabons เพื่อละลายไขมัน ปัจจุบันระบบซักแห้งจึงเป็นระบบปิดที่มีกฎหมายบังคับในหลายประเทศ และให้นำสารทำละลายกลับมาใช้ใหม่
แนวคิดการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้ามีหลากหลาย และช่วยลดปริมาณการผลิตตลอดจนปริมาณขยะที่จะทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม ในระดับของผู้บริโภคอาจเป็นการใช้เสื้อผ้ามือสองที่เป็นตัวอย่างของนักออกแบบ การนำเสื้อผ้าเก่ามาใช้สำหรับงานสกปรก เช่นงานสวน หรือการบริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ ผู้บริโภคยังสามารถดัดแปลงเสื้อผ้าด้วยการตัดเย็บใหม่ แปลงกางเกงเป็นกระเป๋าถือ หรือการแปลงเสื้อผู้ใหญ่เป็นเสื้อผ้าเด็ก
การ recycle ในระดับอุตสาหกรรมสามารถทำกลับเป็นเส้นใยเพื่อใช้ใหม่ มีเทคโนโลยีที่รองรับแล้วในเส้นด้ายพอลีเอสเตอร์ ส่วนเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของเซลลูโลส สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ด้วยการผังกลบ