เตือนภัยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เดือนสิงหาคม 2565 อยู่ในภาวะฟื้นตัว

เตือนภัยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เดือนสิงหาคม 2565 อยู่ในภาวะฟื้นตัว

“สภาวการณ์ส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกกลุ่มสิ่งทอ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 และการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกไปยังตลาดหลักอย่าง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอาเซียน ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ในเดือนกรกฎาคม 2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 โดยกลุ่มสิ่งทอ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 เมื่อพิจารณาในรายผลิตภัณฑ์ พบว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์เส้นใยประดิษฐ์ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทั้งนี้ เป็นผลจากการส่งออกไปยังอินเดียและอินโดนีเซียที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น การส่งออกผลิตภัณฑ์เส้นด้าย ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการปรับตัวลดลงของตลาดจีน ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ผ้าผืน (ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มสิ่งทอ) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นผลจากจากการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการส่งออกไปยังตลาดหลักที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น คือ ตลาดสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น 

โดยคาดการณ์มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ในเดือนสิงหาคม 2565 คาดว่า อยู่ในภาวะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากประเทศคู่ค้าหลักที่สำคัญที่มีปริมาณความต้องการสินค้า (สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม) ที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้การส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในเดือนดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน บวกกับค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ก็น่าจะส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกสำหรับการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มไทยในเดือนถัดไปด้วยเช่นกัน

แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัว โดยเป็นผลสืบเนื่องจาก 1) Headwind จากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ในมิติผลกระทบจากข้อพิพาทดังกล่าวที่มีต่อไทย ในเรื่องของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งกลายเป็นต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมของไทย 2) ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนราคาสินค้าที่สูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก 3) การขาดแคลนสินค้าวัตถุดิบสำคัญใน supply chain ของอุตสาหกรรมสิ่งทอในระดับกลางน้ำ (เส้นด้ายและผ้าผืน) และ 4) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่เป็นผลจากความเข้มงวดในการรับมือกับการระบาด covid-19 อย่างนโยบาย zero covid ที่คาดว่าอาจจะฉุดให้ GDP ของจีนในปีนี้ต่ำกว่าเป้าที่ประมาณการณ์ไว้ (5.5%) และยังส่งผลกระทบในด้านการขนส่งสินค้า วัตถุดิบ และเกิดเป็นวิกฤต Supply Chain ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จากปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565

______________________________

จัดทำและเรียบเรียงโดย

ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม (แผนกข้อมูลอุตสาหกรรม) สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ