ผ้าซิ่นผืนละ 2 ล้าน โอทอปศิลปาชีพ 63

ผ้าซิ่นผืนละ 2 ล้าน โอทอปศิลปาชีพ 63

ผ้าไหมซิ่นก่านมะเขือผ่าโผ่ง มูลค่าผืนละ 2 ล้านบาท เป็นไฮไลต์สำคัญที่ถูกนำมาแสดงในงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย โอทอปก้าวไกลด้วยพระบารมี” จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน ที่มีไปจนถึง 16 ส.ค.นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

เป็นผลงานล่าสุดของ นายชญทรรศ วิเศษศร ประธานกลุ่มทอผ้าแต้มตะกอ บ.เกาะพยอม ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี บอกถึงความพิเศษของผ้าซิ่นผืนละ 2 ล้านบาทว่า ผ้าก่านเป็น 1 ใน 8 แบบอัตลักษณ์ที่ลูกหลานไทยครึ่งลาวครึ่งในอุทัยธานีได้มีการสืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาจนถึงทุกวันนี้

และเป็น 1 ในลายที่มักจะพบเจอในผ้าก่านที่ใช้เทคนิคการทอผ้าจากแบบเกาะลายสลับการทอผ้ายกชิดและมีแม่ลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าไทยครึ่งจังหวัดอุทัยธานี

“ความพิเศษของผ้าผืนนี้ที่แตกต่างจากผ้าซิ่นทั่วไป คือ มีความละเอียดสูงและใช้เวลาในการทอนานกว่าผ้าทั่วไปถึง 3 เท่า เป็นผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดอุทัยธานี คือสีของผ้าต้องไม่ตก เนื้อผ้ามีความสม่ำเสมอ ลวดลายชัดเจน มีความประณีต ละเอียด ชิ้นงานที่ผลิตขึ้นมานี้เป็นการรังสรรค์งานโบราณ เป็นการอนุรักษ์งานโบราณ

วัสดุที่นำมาทอใช้เส้นไหมพระราชทานสีทอง เป็นเส้นไหมสาวด้วยมือ ทำมือทั้งหมดจนเป็นผืนผ้า เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สาวมือ ทำเกลียวเส้นไหมด้วยมือและย้อมสีผ้าขึ้นกี่ทอกระสวยด้วยมือ”

นายชญทรรศ บอกว่า ด้วยความละเอียดของชิ้นงานนี้มีมากกว่างานทั่วไปถึง 3 เท่า การทำงานจึงค่อนข้างยากมาก ใช้เวลา 2 เดือนเต็มๆ ทั้งที่ปกติงานชิ้นนี้ควรจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 เดือน...แต่เนื่องจากกรมพัฒนาชุมชนมีกำหนดเวลาให้เพียงแค่ 2 เดือน จึงต้องทำงานหนักและมีความตั้งใจในการทำงานเพื่อให้รู้ว่าจังหวัดอุทัยธานีมีของดี 1 อย่าง...ผ้าซิ่นก่านมะเขือผ่าโผ่ง เป็นเพียง 1 ใน 8 เท่านั้น ที่เรียกว่าเป็นงานที่ละเอียดมากๆ

ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมการพัฒนาชุมชน ได้เข้าไปให้การส่งเสริมพัฒนากลุ่มอย่างต่อเนื่องรวมทั้งช่วยสอนเรื่องการตลาด และทำแบรนด์ จากเดิมที่ใช้ชื่อ กลุ่มสตรีทอผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ แล้วใช้ชื่อแบรนด์ “แต้มตะกอ” พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ไม่ตกสี จนได้รับมาตรฐาน มผช. ช่วยหาช่องทางการตลาดที่ให้ได้พบกับลูกค้า ทำให้ปัจจุบันกลุ่มนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น จากแต่เดิมทอผ้าแบบโบราณ ใช้บุคลากรหลายหน้าที่ทอผ้า 1 ผืน ปัจจุบันใช้ช่างทอ 1 คนต่อผ้า 1 ผืน ทอผ้าที่มีคุณภาพมากขึ้น รายได้เฉลี่ยโตมากกว่าเดิมถึง 70%.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/1909603