หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / แก้วโปงข่าม ความลึกลับแห่งหินแก้วธรรมชาติ

แก้วโปงข่าม ความลึกลับแห่งหินแก้วธรรมชาติ

กลับหน้าหลัก
09.12.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 64989

แก้วโปงข่าม ความลึกลับแห่งหินแก้วธรรมชาติ

โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงอัญมณีที่มีความงดงาม คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเพชรและพลอยสีเสียมากกว่าจะนึกถึงแร่หรือผลึกต่าง ๆ ทางธรรมชาติที่มีความงดงามเช่นเดียวกันซึ่งสำหรับในประเทศไทยแล้ว บริเวณอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ถือเป็นแหล่งทรัพยากรเพียงแห่งเดียวของประเทศที่มีการขุดพบแร่สวยงามที่มีชื่อเรียกเฉพาะในท้องถิ่นว่า “แก้วโป่งข่าม”อันได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ประจำท้องถิ่น ซึ่งการค้นพบดังกล่าวนำไปสู่การผลิตสินค้าเครื่องประดับและของที่ระลึกที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน

การค้นพบแก้วโป่งข่ามในประเทศไทย

ก้อนแร่ที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน

แก้วโป่งข่ามเป็นแร่ควอรตซ์ชนิดหนึ่งที่มีแร่ซิลิกาปนอยู่ในปริมาณมากมีลักษณะทางกายภาพเป็นหินผลึกที่บางก้อนสามารถมองทะลุเข้าไปภายในแล้วเห็นเป็นผลึกหรือมีอินทรีย์สารอยู่ภายในโดยแก้วโป่งข่ามที่พบมีอยู่หลายชื่อเรียกแบ่งตามสีสันและลวดลายทางธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไปซึ่งในไทย

มีการขุดพบแก้วโป่งข่ามเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 บริเวณดอยโป่งหลวงอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งจากข้อมูลทางธรณีวิทยาระบุว่าบริเวณดังกล่าวเคยมีร่องรอยของลาวาไหลผ่านชั้นหินบนผิวดิน จนเกิดการเคลือบแร่ธาตุเอาไว้และกลายมาเป็นแก้วโป่งข่าม

ความเชื่อเกี่ยวกับแก้วโป่งข่าม

นอกจากความสวยงามที่ดูแปลกตาของแก้วโป่งข่ามแล้ว การนำเอาวัตถุดิบดังกล่าวไปผูกเข้ากับตำนานความเชื่อเรื่องแก้วศักดิ์สิทธิ์ของล้านนาโบราณ ก็ทำให้เกิดกระแสความสนใจและต้องการบริโภคสินค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแก่นหลักทางความเชื่อของล้านนาได้กล่าวถึงแก้วศักดิ์สิทธิ์ อันมีลักษณะเหมือนกันกับแก้วโป่งข่ามว่าสามารถป้องกันเหตุอันตรายต่างๆ ตลอดจนภูตผีปีศาจให้แก่ผู้ที่ครอบครองได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้เกิดโชคลาภ เป็นสิริมงคล ความสุข และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต

การนำมาผลิตและจำหน่ายในปัจจุบัน

ภายหลังจากการขุดพบแก้วโป่งข่าม ทำให้มีชาวบ้านในพื้นที่เกิดความกระตือรือร้นเข้ามาขุดหาแร่ดังกล่าวแทบทั้งวันทั้งคืนเพื่อนำไปขายต่อแล้วได้ราคาดีเพราะเป็นสิ่งสวยงามแปลกตา ต่อมาในปี พ.ศ. 2545ได้มีการรวมตัวกันจัดตั้ง “กลุ่มเจียระไนแก้วโป่งข่ามบ้านนาบ้านไร่” ขึ้นโดยนำเอาวัตถุดิบที่ขุดได้ มาเจียระไนตกแต่งให้สวยงามแล้วผลิตเป็นเครื่องประดับออกวางจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 60 คน

สำหรับกระบวนการผลิตเครื่องประดับจากแก้วโป่งข่าม เริ่มต้นจากการนำก้อนแร่ที่ขุดได้มาเผา ขัดเงาและเจียระไนให้สวยงามได้ขนาดตามที่ต้องการ แล้วจึงนำมาประกอบเข้ากับตัวเรือนเครื่องประดับ โดยใช้ตกแต่งแทนพลอยสีเครื่องประดับที่ผลิตได้มีทั้งแหวน จี้ ต่างหู และกำไลข้อมือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังนำเอาแก้วโป่งข่ามไปใช้ผลิตเป็นรูปแกะสลักขนาดเล็ก อาทิ พระพุทธรูป ของตกแต่งรูปสัตว์และดอกไม้ต่างๆเป็นต้น

เครื่องประดับและของที่ระลึกจากแก้วโป่งข่ามนับเป็นสินค้าประจำท้องถิ่นที่มีความสวยงามแปลกตาและไม่ซ้ำกับท้องถิ่นอื่นๆ รวมทั้งด้วยความที่มีราคาที่ไม่แพงมากจึงทำให้สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคและนักสะสมได้โดยไม่ยาก ปัจจุบันทางผู้ประกอบการได้พยายามทำให้สินค้าดังกล่าวเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อขยายโอกาสทางการค้า โดยใช้วิธีเปิดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และขนสินค้าไปจำหน่ายในงานแสดงสินค้าโอทอปหรืองานแสดงสินค้าพื้นเมืองที่จัดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อันส่งผลให้สินค้าจากแก้วโป่งข่ามเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ความเชื่อเกี่ยวกับแก้วโป่งข่ามทั้ง 13 ประเภท

ปัจจุบันมีแก้วโป่งข่ามอยู่ทั้งหมด 13 ประเภท ซึ่งมีชื่อเรียกและการสื่อความหมายทางความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป โดยการเลือกบริโภคสินค้าขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคล ตามรายละเอียด ดังนี้

1.แก้วขนเหล็กใสมีลักษณะโปร่งใส ภายในมีเส้นแร่ปรากฎอยู่มีไว้เพื่อเสริมโชคลาภยศและตำแหน่ง  

2.แก้วเข้าแก้วมีไว้เพื่อเสริมความโดดเด่นในเรื่องของอำนาจความสำเร็จในการติดต่อค้าขาย และความมีชื่อเสียง

3.แก้วสามกษัตริย์ช่วยเสริมชะตาบารมีให้แก่ผู้ถือครอง

4.แก้วนางขวัญช่วยให้ผู้ที่ครอบครองมีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง

5.แก้วทราย มีลักษณะของเม็ดทรายเรียงกัน ช่วยส่งเสริมในเรื่องของเงินทอง โชคลาภ

6.แก้วพิรุณเสน่หามีลักษณะของเส้นลายจะเป็นริ้วบางๆ เหมือนกับผ้าแพรบางๆ ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขายให้ประสบความสำเร็จ

7.แก้วหมอกมุงเมือง เชื่อว่าทำให้เกิดความบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง

8.แก้ววิทูรสีน้ำผึ้ง มีสีเหลืองขุ่น ช่วยส่งเสริมทางด้านโชคลาภ

9.แก้วกาบมีลักษณะเป็นแร่แผ่นบางๆ อยู่ภายในช่วยเสริมด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

10. แก้วปวกลักษณะมองเห็นเป็นต่อมน้ำหรือฟองน้ำอยู่ภายใน ช่วยเสริมในด้านเมตตามหานิยม

11. แก้วแร ส่งผลในการค้ำชูสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจค้าขาย

12. แก้วมังคละจุฬามณีเมื่อมองเข้าไปภายในจะจินตนาเห็นเป็นรูปมงคลต่างๆ เช่นองค์พระ ต้นโพธิ์ หรือเจดีย์ ถือเป็นแก้วที่หาพบได้ยากและถือว่ามีค่ามาก

13.แก้วโป่งข่ามสีฟ้าเชื่อว่าผู้ใดได้ครอบครองจะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ



ภาวะอัญมณี, อุตสาหกรรม, อัญมณีและเครื่องประดับ, GIT, เครื่องประดับ, เพชร, ปัจจัย