หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / ผ้าจากใบสับปะรดมาแรง! ญี่ปุ่นเหมาเกลี้ยง “หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา” เพิ่มเครื่องจักรเร่งผลิต

ผ้าจากใบสับปะรดมาแรง! ญี่ปุ่นเหมาเกลี้ยง “หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา” เพิ่มเครื่องจักรเร่งผลิต

กลับหน้าหลัก
04.10.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 3782

ผ้าจากใบสับปะรดมาแรง! ญี่ปุ่นเหมาเกลี้ยง “หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา” เพิ่มเครื่องจักรเร่งผลิต

ต้านไม่ไหวกับกระแสโลกกับความต้องการสินค้าที่ผลิตจากเส้นใยที่ผลิตจากธรรมชาติ ลดการใช้สารเคมีและสิ่งปรุงแต่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและญี่ปุ่นที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ผลิตจากธรรมชาติ ทำให้ หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา ลองนำใบสับปะรดมาทำเป็นเส้นใย แล้วทอเป็นผืนผ้าขึ้นรูปเป็นเครื่องนุ่งห่มส่งไปแดนปลาดิบได้เป็นผลสำเร็จ

นางปริยากร ธรรมพุทธสิริ กรรมการผู้จัดการ หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา เผยถึงไอเดียการนำใบสับปะรดมาทำเป็นเส้นใยว่า เกิดจากต้องการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่มีอยู่เดิมคือการผลิตผ้าขาวม้าเพื่อจำหน่าย แต่ด้วยเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายหมู่บ้านก็นิยมทำกัน จึงทำราคาสูงไม่ได้ ดังนั้นเพียง 2 ปี ก็สร้างความต่างด้วยการผลิตเป็นผ้าขาวม้าย้อมสีธรรมชาติ กระทั่งได้มีโอกาสเข้าอบรมกับอาจารย์ของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้รู้ถึงนวัตกรรมด้านหัตถกรรมใหม่ ซึ่งหนึ่งนั้นคือการแปลงใบสับปะรดเป็นเส้นใยสำหรับเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ได้มีผู้ผลิตแล้ว จึงคิดที่จะลองทำบ้าง หลังจากได้ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกสับปะรดของไทย ก็พบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่การปลูกสัปปะรดประมาณ 750,000 ไร่ ในปี 2562 โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ ภาคตะวันตกและตะวันออก จึงทำให้เส้นใยสัปปะรดเป็นวัตถุดิบที่มีศักยภาพในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งในแต่ละรอบการผลิตจะมีใบสัปปะรดที่ถูกทิ้งรวมกว่า 4,000 กิโลกรัมต่อไร่ (ในบางพื้นที่อาจมีมากถึง 8,000-10,000 ตันต่อไร่) เป็นภาระต่อเกษตรกร เนื่องจากมีปริมาณที่มากและยังไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์


นอกจากนี้จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ใบสัปปะรดสดมีเส้นใยโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2.7 โดยน้ำหนักหรือมีปริมาณเส้นใย 100-270 กิโลกรัมต่อไร่ และมีความแข็งแรงเทียบเท่ากับเส้นใยธรรมชาติอื่นที่พบในประเทศ จึงมีศักยภาพที่จะพัฒนาและผลักดันให้ไปสู่การใช้งานและการแข่งขันกับเส้นใยสังเคราะห์และเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ และวอลเปเปอร์ โดยคาดการณ์ความต้องการสิ่งทอจากเส้นใยธรรมชาติในทวีปยุโรป ในปี 2562 ประมาณ 31.51 ล้านตัน


“จากแฟชั่นการแต่งกายที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคคำนึงถึงเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อโลกในอนาคต ทำให้ธุรกิจสิ่งทอที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติเติบโต 39% ต่อปี ซึ่งในประเทศมีการพัฒนาเส้นใยที่ผลิตจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเส้นใยจากสัปปะรด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก”


ข้อมูลดังกล่าวทำให้นางปริยากร เห็นถึงการพัฒนาเส้นใยสับปะรดสู่เชิงพาณิชย์ โดยได้ริเริ่มและเป็นผู้นำในการสร้างและพัฒนาเส้นใยสับปะรดให้เกิดมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งสร้างตลาดใหม่ของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ให้สามารถแข่งขันได้กับเส้นใยอื่นที่มีการส่งเสริมการปลูกในกลุ่มยุโรปและอเมริกา

ปัจจุบัน หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา ได้ดำเนินกิจการด้านการผลิตเส้นใยสับปะรดและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันการผลิตเส้นด้ายและการทอผ้ายังใช้แรงงานคนในการผลิตเป็นหลัก ทำให้กระบวนการผลิตเกิดความล่าช้าและคุณสมบัติของเส้นใยที่ได้มีความแข็งแรงน้อย ไม่เหมาะสมในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ตลาดต่างประเทศต้องการ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาเส้นใยให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นและมีคุณสมบัติของผ้าทอที่ตรงต่อความต้องการของตลาด โดยการพัฒนาเครื่องต่อเกลียวเส้นใยสับปะรดอัตโนมัติที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 66.6% และเครื่องทอผ้าสับปะรดกึ่งอัตโนมัติที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต 71.43%


โดย หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา ได้เข้าร่วมโครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน” ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ภายใต้การสนับสนุนในโครงการนวัตกรรมแบบเปิดจำนวนไม่เกิน 1,125,500 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน ในหมวดค่าวัตถุดิบ/ค่าวัสดุอุปกรณ์ หมวดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน หมวดค่าวิเคราะห์ทดสอบ และหมวดค่าตอบแทน เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการ “เครื่องต่อเกลียวและทอผ้าเส้นใยสับปะรดกึ่งอัตโนมัติ” ถือเป็นนวัตกรรมระดับอุตสาหกรรม ด้านกระบวนการผลิตเส้นใยสับปะรด โดยพัฒนาและออกแบบเครื่องต่อเกลียวและเครื่องกี่ทอผ้าอัตโนมัติ ในระบบต่อเกลียวจะสามารถควบคุมขนาดของเส้นด้ายตามที่ต้องการและเพิ่มความแข็งแรงของเส้นด้าย รวมถึงพัฒนาสารเคลือบจากแป้งข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สามารถทอขึ้นรูปได้ง่ายขึ้น และลดระยะเวลาในการต่อเส้นด้าย ในส่วนของเครื่องกี่ทอผ้าอัตโนมัติสามารถทอเส้นยืนจากใยสับปะรดได้ ทำให้เพิ่มผลผลิตจากเดิมเป็น 4 เท่า และลดต้นทุนได้ 50%

ข้อดีของเส้นใยสับปะรด อยู่ที่การที่สามารถลดของเสีย หรือขยะให้กับประเทศได้ รวมถึงยังช่วยลดการนำเข้าฝ้ายจากต่างประเทศ เพราะเส้นใยสับปะรดก็มีความนิ่ม แต่เส้นใยแข็งแรงกว่าฝ้าย ดูดสีธรรมชาติได้ดีกว่าฝ้าย เช่น สีจากใบคราม ใบหูกวาง เปลือกมังคุด และยังมีคุณสมบัติต้านเชื่อแบคทีเรีย จึงเหมาะที่จะนำไปทำเป็นหมวก รองเท้า และต่อไปจะแตกไลน์สู่วอลเปเปอร์พร้อมเจาะตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น


ที่มา : https://mgronline.com/smes/detail/9620000091755

ข่าวรายวัน, สิ่งทอ, ใบสับปะรด, หจก.รักษ์บ้านเรา, เส้นใยสับปะรด, แฟชั่น