หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย8เดือนโตพรวด 45.81% อินเดียดาวเด่น

ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย8เดือนโตพรวด 45.81% อินเดียดาวเด่น

กลับหน้าหลัก
04.10.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 481

ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย8เดือนโตพรวด 45.81% อินเดียดาวเด่น

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล  รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วง 8 เดือนของปี 62 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 11,452  ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 45.81% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 357,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.40% โดยตลาดที่การส่งออกขยายตัวสูงสุด คือ อาเซียน เพิ่ม 190.80% จากการส่งออกไปสิงคโปร์ที่  เพิ่มขึ้น 307% กัมพูชาเพิ่ม 137% รองลงมา คือ อินเดีย เพิ่มขึ้น 84.14% จากการที่ชนชั้นกลางในอินเดียมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้มีความต้องการบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่เติบโตดี คือ เพชร โลหะเงิน พลอย ส่วนตลาดอื่นๆ เช่น ฮ่องกง ลด 1.85% สหภาพยุโรป ลด 0.74% สหรัฐฯ ลด 7.69% ตะวันออกกลาง ลด 0.86% ญี่ปุ่น ลด 6.48% จีน ลด 13.76% ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ลด 13.11% รัสเซียและประเทศเครือรัฐเอกราช ลด 72.69%

 

“การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจของไทย เพราะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งคนคัดพลอย ช่างเจียระไน ช่างฝีมือ ช่างผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ ประกันภัย โลจิสติกส์ และผู้ส่งออก โดยปัจจุบันเป็นสินค้าที่ทำเงินเข้าประเทศเป็นอันดับ 3 รองจากยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ก่อให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจปีละ 1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6% ของจีดีพี และมีการจ้างงานในระบบกว่า 7 แสนคน”นายวีรศักดิ์กล่าว

นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีความท้าทายและอุปสรรค โดยเฉพาะความตรึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ยังไม่มีความชัดเจน การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ความขัดแย้งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง การประท้วงในฮ่องกง ความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และค่าเงินบาทที่ยังมีความผันผวนสูง ซึ่งผู้ส่งออกต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และต้องหาทางลดต้นทุน รวมทั้งเพิ่มการขายสินค้าเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นและเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์


ส่วนโอกาสจากปัญหาสงครามการค้า หากสหรัฐฯ เก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ หันมาซื้อจากไทยทดแทน ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมพร้อมผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และต้องคำนึงถึงกฎระเบียบใหม่ๆ ที่สหรัฐฯ จะนำมาใช้ เช่น การสำแดงที่มาของวัตถุดิบ ที่ไม่ใช้แรงงานทาสหรือเงินสนับสนุนก่อการร้าย แต่ในทางกลับกัน หากจีนส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ลดลง ก็จะนำเข้าจากไทยลดลง เช่น พลอยสี ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเร่งกระจายความเสี่ยงหาตลาดใหม่ เช่น ประเทศในตะวันออกกลาง เป็นต้น


ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1696023

ข่าวรายวัน, อัญมณี, เครื่องประดับ, ส่งออก, ม.ค.-ส.ค., อินเดีย, พาณิชย์, จีไอที