หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / หวั่น Brexit “สรท.” หดเป้าส่งออก”62 โต3%

หวั่น Brexit “สรท.” หดเป้าส่งออก”62 โต3%

กลับหน้าหลัก
10.04.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 579

หวั่น Brexit “สรท.” หดเป้าส่งออก 62 โต 3%

สรท.หดเป้าส่งออกปี”62 จาก 5% เหลือ 3% เอฟเฟ็กต์ ศก.โลกชะลอตัว-Brexit ไร้ทิศทาง-เตรียมชงรัฐบาลใหม่ทบทวนนโยบายขึ้นค่าแรงต้องรอบคอบหวั่นกระทบต้นทุนการผลิตราคาสินค้า พร้อมแนะรัฐเร่งเจรจา FTA ตลาดหลัก


นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสภาผู้ส่งออก (สรท.) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกปรับลดประมาณการเป้าหมายการส่งออกปี 2562 เหลือ 3% ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 5% จากแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังได้รับผลกระทบจากมาตรการสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจนกระทบต่อตลาดส่งออกสำคัญของไทย


โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนที่ต้องลดการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบจากไทย และยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง ทั้งเรื่องการเจรจาของอังกฤษเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลต่อนักลงทุน ทั้งด้านการเงินและการผลิตเริ่มย้ายฐานออกจากอังกฤษ เนื่องจากกังวลต่อกฎระเบียบที่ยังตกลงกันไม่ได้


สำหรับคาดการณ์ใหม่ จะอยู่ภายใต้สมมุติฐานค่าเงินบาท 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากจะผลักดันการส่งออกทั้งปีให้ขยายตัวถึงเป้าหมาย 3% จะต้องทำให้การส่งออกเฉลี่ยตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคมอยู่ที่ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากเป้าหมายเดิม 5% ที่จะต้องส่งออกเฉลี่ย 22,800 ล้านเหรียญสหรัฐ


อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกต่อการส่งออกไทย เช่น เรื่องการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ในตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะ AFTA ที่ขยายตัวกว่า 13%


ทั้งนี้ ทางสภาผู้ส่งออกเตรียมยื่นหนังสือแสดงท่าที ขอให้รัฐบาลชุดใหม่สร้างเสถียรภาพทางการเมือง สนับสนุนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีต่าง ๆ เช่น ความตกลงพันธมิตรทางการค้าในระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก (CPTPP) และการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ร่วมกับ European Shippers Council (ESC) ต่อด้วย DG-Trade สหภาพยุโรป


ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสภาพสงครามการค้าเริ่มผ่อนครายจากที่สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนลดลง 6% และรัฐบาลสหรัฐส่งสัญญาณขยายระยะเวลาการเจรจากับทางการจีนออกไปจนกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะมีการปรับปรุงนโยบายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอาจจะประเมินอีกครั้งหลังไตรมาส 1


“นโยบายการขึ้นค่าแรงที่เป็นนโยบายหาเสียง จะส่งผลดีกับแรงงานต่างชาติมากกว่าไทย เพราะจะมีแรงงานไหลเข้ามากขึ้น แต่อีกด้านจะเป็นแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิต ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ และส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าและค่าบริการ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น ทางสภาผู้ส่งออกต้องการให้รัฐบาลใหม่พิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามขีดความสามารถในการแข่งขันของแต่ละอุตสาหกรรม”


รายงานข่าวระบุว่า การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีมูลค่า 21,553 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 17,519 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 10.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผลทำให้ไทยเกินดุลการค้า 4,034 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการส่งออก2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) 2562 มูลค่า 40,547 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 40,545 ล้านเหรียญสหรัฐ


สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ทองคำ เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิวเหล็กและเหล็กกล้า ผัก ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปส่งออกขยายตัว ส่วนสินค้าส่งออกที่ลดลง เช่น ข้าว ยางพารา รถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

ที่มา ; https://www.prachachat.net/economy/news-312239

ข่าวรายวัน,Brexit,สรท.,ส่งออก62,สิ่งทอ,เครื่องนุ่งห่ม