
ลวดลายแห่งมาลาไคท์
ในกระบวนอัญมณีที่พบเห็นกันในตลาดนั้น มีอัญมณีอยู่ชนิดหนึ่งที่มีความพิเศษและผิดแผกไปจากอัญมณีชนิดอื่นๆ มันเป็นพลอยสีเขียวเนื้อแน่นทึบแสง มีลวดลายและเส้นสายในตัวดูสวยงามแปลกตา อัญมณีชนิดนี้ที่มีชื่อเรียกว่ามาลาไคท์ (Malachite)
ลักษณะทางกายภาพของมาลาไคท์
ภาพโดย : Pinterest (ซ้าย) และ GIA (ขวา)
ทำความรู้จักมาลาไคท์ (Malachite)
มาลาไคท์ (Malachite) มาจากคำในภาษากรีกว่า “Malakos”แปลว่า อ่อนนุ่ม ซึ่งมันก็เป็นจริงเช่นนั้น ด้วยมันมีค่าความแข็งเพียง 3.5-4 ตามโมห์สสเกลนับว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเพชรที่มีค่าความแข็งในระดับ 10 ตามโมห์สเกล ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาอัญมณีทั้งปวง
แหวนทองชมพู 18 กะรัต ตกแต่งด้วยมาลาไคท์
เครื่องประดับโดย : Bvlgari
มาลาไคท์ (Malachite) เป็นอัญมณีซึ่งเป็นที่รู้จักและมีความเกี่ยวพันกับอารยธรรมและความเชื่อต่าง ๆ ของมนุษย์มาหลายพันปี โดย ‘อียิปต์’ หนึ่งในอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดของโลกคือชนชาติแรก ๆ ที่รู้จักการนำเอาพลอยชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ ซึ่งนอกจากมันจะถูกนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับแล้ว ชาวไอยคุปต์ยุคโบราณยังนำมาทำเป็นเครื่องรางเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของให้รอดพ้นจากอันตราย สิ่งชั่วร้าย และอำนาจมืดต่าง ๆ และด้วยความที่เป็นอัญมณีที่มีความแข็งต่ำ มันจึงถูกนำมาแกะสลักเป็นเครื่องใช้สอยในราชสำนัก อาทิ เครื่องถ้วยชาม แจกัน ฯลฯ รวมไปถึงถูกนำมาบดเป็นผงเพื่อทำเป็นเครื่องสำอางสำหรับสาว ๆ ชาวไอยคุปต์อีกด้วย
ต่างหูทอง18 กะรัต ตกแต่งด้วยมาลาไคท์
เครื่องประดับโดย: Boucheron
นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่ามาลาไคท์สามารถป้องกันและบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อาทิ โรคตับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทั้งยังมีสรรพคุณในการล้างพิษได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยบำบัดรักษาอาการป่วยทางกายแล้ว มันยังช่วยเยียวยาอาการป่วยทางจิตใจ ความผิดปกติทางอารมณ์ และความรู้สึกอ่อนแอ เป็นต้น
มาลาไคท์ยังถูกผูกโยงเข้ากับความเชื่อที่เกี่ยวกับโชคลาภ ด้วยเหล่าพ่อค้าวานิชมักจะพกมาลาไคท์ไว้ติดตัวเสมอ อันเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่ามันเป็นอัญมณีที่ช่วยเสริมส่งการทำธุรกิจ นำมาซึ่งโชคลาภ เพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองและความมั่งคั่งให้แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย
ชุดเครื่องประดับมาลาไคท์แห่งราชินีสวีเดน
มาลาไคท์เป็นอัญมณีซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในช่วงศตวรรษที่ 19 และมันได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องประดับชั้นสูงแห่งราชวงศ์สวีเดน ด้วยถูกนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับอันเป็นสมบัติของสมเด็จพระราชินีเดซีเดอเรียแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ (Desideria, Queen of Sweden and Norway) สมเด็จพระราชินีในพระเจ้าคาร์ล โยฮัน ที่ 14 แห่งสวีเดนและนอร์เวย์อดีตนายพลชั้นแนวหน้าของกองทัพฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนซึ่งกลายเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์เบอร์นาดอตต์
สมเด็จพระราชินีเดซีเดอเรียแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ (ซ้าย) และชุดเครื่องประดับทองตกแต่งด้วยมาลาไคท์ของพระองค์ (ขวา)
ภาพโดย : The Court Jeweller
เครื่องประดับชุดนี้ซึ่งประกอบด้วย รัดเกล้า สร้อยคอ เข็มกลัด ต่างหู และสร้อยข้อมือ 2 เส้น เป็นเครื่องประดับทองที่ถูกออกแบบและทำขึ้นอย่างปราณีตสวยงามดูอ่อนช้อยด้วยลวดลายของใบไม้และดอกไม้ ตกแต่งด้วยมาลาไคท์แกะสลักเป็นรูปต่างๆโดยเป็นผลงานของช่างทำเครื่องประดับชาวปารีส ซึ่งถูกทำขึ้นในช่วงปี 1820 – 1830
เครื่องประดับทองตกแต่งด้วยมาลาไคท์ชุดนี้ได้ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดนถึง 3 พระองค์ด้วยกัน โดยภายหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระราชินีเดซีเดอเรีย เมื่อปี 1860 มันก็ตกเป็นของสมเด็จพระราชินีโจเซฟีน ในสมเด็จพระราชธิบดีออสการ์ที่ 1 และได้ถูกส่งต่อไปยังสมเด็จพระราชินีโซเฟีย ในสมเด็จพระราชาธิบดีออสการ์ที่ 2 เมื่อปี 1876 ตามลำดับ
ปัจจุบัน เครื่องประดับทองชุดนี้ได้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์นอร์ดิค (The Nordic Museum)พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
--------------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
1. Malachite: Meaning, Properties and Powers. Crystals and Jewelry.com
https://meanings.crystalsandjewelry.com/malachite/
2. Malachite Symbolism. International Gem Society (IGS).
https://www.gemsociety.org/article/history-legend-malachite-gems-yore/
3. The Swedish Malachite Parure. The Court Jeweller. (9 December2017).
http://www.thecourtjeweller.com/2017/12/the-swedish-malachite-parure.html
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ