ภาคอุตสาหกกรมเครื่องหนังในบังคลาเทศซบเซาไม่มีการลงทุนใหม่

กลับหน้าหลัก

ภาคอุตสาหกกรมเครื่องหนังในบังคลาเทศซบเซาไม่มีการลงทุนใหม่

อุตสาหกรรมเครื่องหนังพยายามดิ้นรนเพื่อดึงดูดการลงทุนใหม่ถึงแม้ว่ารัฐบาลบังคลาเทศได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังเป็น 'Product of the Year 2017'

การส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องหนังลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปีงบประมาณ 2561–2562 ในช่วงเดือนกรกฎาคม – มกราคม เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า 2560–2561 (กรกฎาคม - มกราคม) เจ้าของโรงฟอกหนังส่วนใหญ่กล่าวโทษการขาดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และขาดความระมัดระวังในธุรกิจโรงฟอกหนังที่ทำร้ายโอกาสการเติบโตของภาคธุรกิจ พวกเขายังกล่าวอีกว่าได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีในเมืองซาวาร์

สำนักงานส่งเสริมการส่งออก (EPB) ระบุว่าภาคธุรกิจมีอัตราการเติบโตติดลบร้อยละ 11.71 ทำให้มีกำไร 626.42 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบันปี 2561-2562 (กรกฎาคม - มกราคม) เมื่อเทียบกับมูลค่า 709.51 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2560–2561 (กรกฎาคม - มกราคม)

Shaheen Ahmed ประธานสมาคมฟอกหนังบังกลาเทศ (BTA) กล่าวกับ The Independent ว่าในปี 2013 ราคาเครื่องหนังเพิ่มขึ้นในตลาดโลกทำให้ผู้ผลิตเครื่องหนังที่มีชื่อเสียงเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์หนังเทียมเพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลก

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า“เนื่องจากการเติบโตที่ติดลบอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เราจึงสูญเสียการลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

ประการที่สองเขากล่าวว่า“ประเทศจีนใช้หนังดิบจากเราเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องหนัง รัฐบาลสหรัฐฯได้เรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 สำหรับสินค้าจำนวนหนึ่งของประเทศจีน (รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง) ที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเราอย่างรุนแรงและจีนก็หยุดนำเข้าหนังดิบจากเรา”

Ahmed ยังกล่าวอีกว่าโรงงาน 155 แห่งได้ถูกย้ายไปที่เมืองซาวาร์ ในจำนวนนี้มีโรงงาน 125 แห่งและโรงฟอกหนัง 25 แห่งที่ได้เริ่มดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว

เขาอธิบายว่าภาคอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้รับประโยชน์จากโรงบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง (CETP) และกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้บรรลุมาตรฐานระดับโลก

เขากล่าวว่า“ผู้รับเหมาชาวจีนคนหนึ่งได้รับจ้างให้สร้างโรงบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง (CETP) และลานทิ้งขยะ แต่งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์”

สถานีพลังงานย่อยที่มีกำลังการผลิต 10MW ถูกสร้างขึ้นใน Savar Tannery Complex นอกจากนี้ยังสามารถนำกากตะกอนที่มาจาก CETP เมื่อโครงการดำเนินการแล้วมาสร้างพลังงานสูงสุด 5 เมกะวัตต์ (MW) โดยพลังงานสามารถนำมาใช้สำหรับการผลิตได้

สมาชิก BTA กล่าวว่าในขณะนี้การก่อสร้างอาคารบริหารและสถานีดับเพลิงแล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังมีการวางท่อระบายน้ำ ท่อส่งน้ำ สายไฟฟ้า และท่อก๊าซ

“ดังนั้นสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง เราจะเห็นการเติบโตเป็นบวกหาก CETP พร้อมใช้งานได้อย่างสมบูรณ์” Ahmed กล่าว  

ในปีงบประมาณ 2561–2562 มีเพียงรองเท้าหนังเท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตเป็นบวกเล็กน้อยที่ร้อยละ 7.35 ทำให้มีกำไร 384.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับมูลค่า 357.98 ล้านเหรียญสหรัฐช่วงเวลาเดียวกันในปี 2560-2561

ที่มา : http://www.theindependentbd.com/post/190228