จดหมายข่าวอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม_รายเดือน

ฉบับที่ 47 (เดือนกุมภาพันธ์ 2562)

Business ข้อมูลธุรกิจ

ข่าว :

“บีโอไอ”แนะธุรกิจไทยลงทุนในอุซเบกิสถานชูอุตฯ อาหารแปรรูป สิ่งทอ ท่องเที่ยว

บีโอไอแนะผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน หลังเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน และเน้นกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในปีนี้ พร้อมแนะอุตสาหกรรมที่จะเป็นโอกาสแก่นักลงทุนไทย อาทิ อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และการแปรรูปสินค้าเกษตร สิ่งทอ กิจการท่องเที่ยวและโรงแรม โดยบีโอไอเตรียมแผนจัดทัพบริษัทไทยไปดูลู่ทางการลงทุน

นายชูวงศ์ ตั้งคุณสมบัติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายจัมชิด ซาฟาร็อฟ (MR. JAMSHID SAFAROV) กงสุลผู้ทำหน้าที่ตัวแทนกงสุลใหญ่ ณ สถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย ถึงแผนการส่งเสริมการลงทุนไทยในประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งในปีนี้รัฐบาลอุซเบกิสถานจะผลักดันให้เป็นปีที่มีการกระตุ้นการลงทุน หลังจากที่ได้เริ่มเปิดเสรีทางการค้าการลงทุนมากขึ้น และในปีที่ผ่านมา 2561 ก็เป็นปีแห่งการส่งเสริมผู้ประกอบการในด้านเทคโนโลยีและแนวคิดนวัตกรรม

“หลังจากที่อุซเบกิสถานได้เปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากขึ้น และมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น อุซเบกิสถานจึงอยากเชิญชวนนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในมิติด้านการสร้างงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคน และการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งอุซเบกิสถานก็มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่น การให้เช่าที่ดินในอัตราที่ต่ำ การยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักร การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นต้น” นายชูวงศ์กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลตลาด :

สถานการณ์อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย เดือนธันวาคม 2561

ภาพที่ 1 แสดงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย

เดือนธันวาคม 2561 และ (สะสม) เดือนมกราคม-ธันวาคม 2561

ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ในเดือนธันวาคม 2561 พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 536.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.68 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 355.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.31 และ (2) การส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 181.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.25 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าของอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมูลค่า 419.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.89 แบ่งเป็น (1) การนำเข้ากลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 276.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.95 และ (2) การนำเข้ากลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 142.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.88 และส่งผลให้ภาพรวมดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 117.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมดังกล่าว สะสมปี 2561 (มกราคม - ธันวาคม 2561) พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 7,133.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.50 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 4,668.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.25 และ (2) การส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 2,465.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.11 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้า (สะสม) ของอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมูลค่า 5,368.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.67 แบ่งเป็น (1) การนำเข้า (สะสม) กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 3,650.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.73 และ (2) การนำเข้า (สะสม) กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 1,717.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.06 และส่งผลให้ภาพรวมดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 1,765.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานการณ์อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าไทย เดือนธันวาคม 2561

ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ในเดือนธันวาคม 2561 พบว่า การส่งออกเครื่องหนังและรองเท้า มีมูลค่า 148.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.73 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 91.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.05 และ (2) การส่งออกกลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 56.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.66 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าของอุตสาหกรรมในเดือนดังกล่าว มีมูลค่า 146.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.05 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การนำเข้ากลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 94.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.89 และ (2) การนำเข้ากลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 52.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.25 และส่งผลให้ภาพรวมดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมดังกล่าว สะสม 12 เดือน (มกราคม – ธันวาคม 2561) พบว่า การส่งออกเครื่องหนังและรองเท้า มีมูลค่า 1,788.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.02 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 1,163.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.71 และ (2) การส่งออกกลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 625.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.06 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าสะสมของอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมูลค่า 1,964.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.65 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น (1) การนำเข้ากลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 1,423.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.03 และ (2) การนำเข้ากลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 541.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.62 และส่งผลให้ภาพรวมดุลการค้าขาดดุล คิดเป็นมูลค่า 176.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี 2561

การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2561 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 6.62 (ร้อยละ 11.77 ในหน่วยของเงินบาท)  หรือมีมูลค่า 11,976.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (383,656.52 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่า 12,825.26 ล้านเหรียญสหรัฐ (434,825.28 ล้านบาท) นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 3 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.74 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำพบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 7,604.64 ล้านเหรียญสหรัฐ (243,743.92 ล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าเติบโตสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 6.96 (ร้อยละ 1.18 ในหน่วยของเงินบาท)

ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

เมื่อแยกพิจารณาการส่งออกในรายผลิตภัณฑ์สำคัญพบว่า

สินค้าสำเร็จรูป เครื่องประดับทอง และเครื่องประดับเงิน เติบโตร้อยละ 11.09 และร้อยละ 3.78 ตามลำดับ

สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.51,
ร้อยละ 1.66 และร้อยละ 5.15 ตามลำดับ

รายละเอียดเพิ่มเติม

Design ออกแบบ

ประกายเครื่องประดับ...ระยิบระยับบนแผ่นฟิล์ม

บนจอเงินในโลกมายาของฮอลลีวูด นอกจากเราจะได้พบกับเรื่องราวมากมายของภาพยนต์หลากแนว ฝีมือการแสดงของนักแสดงเจ้าบทบาททั้งชายและหญิง ฉากและเอฟเฟคต่างๆ สุดตระการตาแล้ว เรายังมักมีโอกาสได้พบเห็นเครื่องประดับล้ำค่าสุดอลังการชิ้นต่างๆ ที่พากันอวดประกายระยิบระยับบนแผ่นฟิล์มมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตัวอย่างเช่นสร้อยไข่มุกประดับเพชรที่ออเดรย์ เฮปเบิร์น สวมในฉากเปิดของภาพยนต์เรื่อง Breakfast at Tiffany’sรวมไปถึงสร้อยคอเพชรสุดอลังการที่มหาเศรษฐีมอบให้กับนางเอกของภาพยนต์เรื่อง Moulin Rouge ซึ่งรับบทบาทโดยนิโคล คิดแมน และเครื่องประดับบนแผ่นฟิล์มที่จะไม่ถูกพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ สร้อยคอเพชรสีน้ำเงินขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า ‘หัวใจมหาสมุทร’ อันโด่งดัง ซึ่งปรากฎในภาพยนต์โศกนาฏกรรมรักโรแมนติกเรื่องไททานิก

ยังมีเครื่องประดับบนแผ่นฟิล์มอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกพูดถึง เพราะหากจะให้หยิบยกขึ้นมาทั้งหมดก็คงจะต้องใช้เวลานานโข เครื่องประดับเหล่านี้บางชิ้นก็เป็นเพียงสิ่งสมมติเพื่อเพิ่มเติมอรรถรสให้แก่ภาพยนต์เท่านั้นในขณะที่บางชิ้นก็เป็นของที่มีอยู่จริงหรือเคยมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์

และในปี 2018 นี้ วงการมายาก็ได้เผยเครื่องเพชรสุดอลังการอีกครั้ง ในภาพยนต์เรื่อง Ocean’s 8 ซึ่งเป็นเรื่องราวของแผนการโจรกรรมเหนือเมฆที่ได้รวบรวมบรรดา ‘ตัวแม่’ ของวงการฮอลลีวูด 8 คน เข้าไว้ด้วยกัน โดยฉากการโจรกรรมในภาพยนต์เรื่องนี้ อยู่ที่งานกาล่าสุดหรู ‘Met Gala’ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum หรือ The Met ในมหานครนิวยอร์ก และสำหรับเป้าหมายการโจรกรรมนั้นอยู่ที่สร้อยคอเพชรเส้นโตที่มีชื่อว่า ‘Jeanne Toussaint’ (ฌอง ตูซองต์)

รายละเอียดเพิ่มเติม

Innovation นวัตกรรม เทคโนโลยี

Zhor-Tech ผลิตรองเท้าอัจฉริยะแห่งอนาคต

บริษัท Zhor-Tech ผู้บุกเบิกและผู้นำในด้านเทคโนโลยีรองเท้าอัจฉริยะได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับกีฬา สภาพอากาศ ความปลอดภัยในการทำงาน และการดูแลสุขภาพ รวมถึงพัฒนารองเท้าที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ใส่ไว้ในรองเท้า โดย Zhor-Tech เป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีนวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริง

Digitsole

พื้นรองเท้า Digitsole สามารถปรับให้กระชับกับรองเท้าวิ่ง เพื่อช่วยให้นักกีฬาอาชีพหรือนักวิ่งสมัครเล่นเข้าใจถึงพฤติกรรมและสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการวิ่งได้ นอกจากนี้ในการปั่นจักรยาน Zhor-Tech จะช่วยในการวิเคราะห์ความสมดุล เทคนิคการปั่น และการปรับองศาของอานจักรยาน, shoe shims, และแฮนด์บาร์ให้ถูกวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ และในการวิ่ง Zhor-Tech วิเคราะห์การก้าวเท้าในรูปแบบ 3 มิติเพื่อให้ผู้ใช้ปรับใช้พลังงานให้เหมาะสมกับการวิ่ง และเพิ่มประสิทธิภาพจากการวัดpronation/supination, แรงกระแทก และการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ภายในแอปพลิเคชั่นยังมีแบบฝึกหัดสำหรับการออกกำลังกาย และมีรายละเอียดของกิจกรรม เช่น ระยะทางที่วิ่ง เป็นต้น

พื้นรองเท้า Warm Series

พื้นรองเท้า Warm Series ของ Zhor-Tech สามารถปรับอุณหภูมิได้โดยการเชื่อมต่อแอปบนสมาร์ทโฟนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 86 ° F ถึง 113 ° F โดยมีเทอร์โมมิเตอร์ควบคุมอุณหภูมิอยู่ภายในรองเท้า ซึ่งเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้พื้นรองเท้า Warm Series ยังเหมาะสำหรับกิจกรรมในช่วงฤดูหนาว เช่น การปีนเขา การล่าสัตว์ และการเล่นสกี รวมถึงกิจกรรมที่ต้องทำนอกบ้าน

รายละเอียดเพิ่มเติม

Quality มาตรฐานคุณภาพ

กฎระเบียบสินค้าสิ่งทอเพื่อการส่งออกไปประเทศจีน

ตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ เนื่องจากประชากรจีนมีมากกว่า 1.3 พันล้านคนซึ่งมากที่สุดในโลก และประชาชนมีกำลังซื้อเพราะเศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตในอัตราที่สูงติดต่อกันหลายปี  สินค้าแฟชั่นในกลุ่มเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอเป็นกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสส่งออกไปยังประเทศจีนได้ แต่อย่างไรก็ดี ประเทศจีนมีกฎระเบียบทางการค้าสำหรับสินค้าในกลุ่มเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ผู้ประกอบการควรเรียนรู้และเตรียมพร้อมก่อนส่งออกไปยังประเทศจีนมาตรฐานบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศจีน มี 5 มาตรฐาน

1. GB 18401-2010 National General Safety Technical Code For Textile Products

2. GB 20400-2006 Leather And Fur – Limit of Harmful Matter

3. GB 5296.4-1998 Instructions For Use of Products of Consumer Interest - Instructions For Use of Textiles And Apparel

4. FZ/T 01053-2007 Textile – Identification of Fiber Content

5. GB 31701-2015 Safety technical code for infants and children textile products

รายละเอียดเพิ่มเติม

THTI Activities กิจกรรมสถาบันฯ

สสว. สถาบันฯสิ่งทอ และหน่วยร่วมดำเนินงานเปิดตัวโครงการ SME Start up

สสว. ผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจ SME ให้เท่าทันการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน โดยยกระดับผู้ประกอบการเข้าสู่ “SME Modernization” พร้อมอัดฉีดกลยุทธ์ “SPEED” ผ่าน 5 หลักปฏิบัติคือ S - SMART ฉลาดรอบรู้ P - Proactive ทำงานในเชิงรุก E - Efficiency ทำงานมีประสิทธิภาพ E - Exclusive มีความพิเศษเฉพาะตัว และ D - Digitalization ปรับกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ SME ภาคเกษตร กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้หญิงพร้อมผลักดันผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เข้าสู่การยกระดับธุรกิจเริ่มต้น (Boost Up New Entrepreneur) ปูพรมยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการผ่านการอบรมเชิงลึกที่ปรับให้เข้ากับแต่ละกลุ่มธุรกิจ (tailormade)ตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการกว่า 8,800ราย ในปี 2562

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. เริ่มดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (SME Start up: Early Stage)ในปี 2559 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยปรับใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อบ่มเพาะและพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเริ่มแรกจะดำเนินการเพียงพัฒนาผู้ประกอบการใหม่แบบทั่วไป แต่เนื่องจากตลาดในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ทำให้ สสว. ได้พัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ได้สร้างผู้ประกอบการใหม่ไปแล้วกว่า 30,000 ราย ทั้งผู้ประกอบการทั่วไปและผู้ประกอบการในภาคเกษตร เพิ่มมูลค่ากว่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศกว่า 2,500 ล้านบาท

ที่มา : https://mgronline.com/south/detail/9610000082136