หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / “Skechers” ถูกซื้อกิจการ 9.4 พันล้านดอลล์ เซ่นพิษ “ภาษีทรัมป์”

“Skechers” ถูกซื้อกิจการ 9.4 พันล้านดอลล์ เซ่นพิษ “ภาษีทรัมป์”

กลับหน้าหลัก
08.05.2568 | จำนวนผู้เข้าชม 222

“Skechers” ถูกซื้อกิจการ 9.4 พันล้านดอลล์ เซ่นพิษ “ภาษีทรัมป์”

‘Skechers แบรนด์รองเท้าดังจากสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลง ให้บริษัท 3G Capital เข้าซื้อกิจการเป็นมูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเพราะเป็นดีลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัตศาสตร์ของอุตสาหกรรมรองเท้า พร้อมกันนี้จะถอนบริษัทฯ ออกจากตลาดหุ้นสะท้อนถึงแนวทางในการรับมือต่อแรงกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าจากภาษีศุลกากร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างเป็นอิสระ’

Image Credits: Business of Fashion 

Skechers USA Inc. ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 พฤษภาคม 2568) ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงให้บริษัท 3G Capital เข้าซื้อกิจการรวมเป็นมูลค่ากว่า 9,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้นำทีมบริหารก็จะยังคงเดิม นั่นคือ คุณโรเบิร์ต กรีนเบิร์ก (Robert Greenberg) มีตำแหน่งเป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานอีกคน คือ คุณไมเคิล กรีนเบิร์ก (Michael Greenberg) และที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ก็จะยังคงอยู่ที่เดิมเช่นกันคือที่ แมนฮัตตันบีช (Manhattan Beach) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าการดำเนินการตามข้อตกลงนี้จะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2568 รวมไปถึงมีการถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้นด้วย โดยตระกูลกรีนเบิร์กจะยังคงถือหุ้นบางส่วนไว้อยู่ ซึ่งหลังจากการประกาศข่าวก็มีผลทำให้ราคาหุ้นของ Skechers เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 25 ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ส่งผลทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อย

ด้านคุณจอห์น เคอร์แนน (John Kernan) น้กวิเคราะห์กลุ่มค้าปลีกของ ทีดี โคเวน (TD Cowen) ให้ความคิดเห็นกับเรื่องนี้โดยเชื่อว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากคณะกรรมการของ Skechers อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังถือว่าเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาคการค้าปลีกของกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายและรองเท้า เมื่อเทียบกับดิวก่อนหน้าในอุตสาหกรรมนี้ นั่นก็คือ Reebox มีมูลค่าอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในช่วงราคาหุ้นของอุตสาหกรรมรองเท้าอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และอยู่ในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนด้วย

ด้านคุณทอม นิค (Tom Nikic) จาก Needham & Co. ระบุว่า ค่อนข้างประหลาดใจกับข่าวนี้เหมือนกัน เนื่องจากว่า Skechers มักถูกมองว่าเป็นธุรกิจครอบครัว เพราะว่ามีสมาชิกในครอบครัวหลายคนทำงานอยู่ในบริษัท อย่างไรก็ตาม คุณโรเบิร์ต กรีนเบิร์ก ในวัย 85 ปียังคงบริหารอยู่ในบริษัทที่เป็นผู้ก่อตั้งมา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการตัดสินใจนี้ อาจจะถูกกระตุ้นให้เกิดเร็วขึ้น เนื่องจากว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษีศุลกากร ความรู้ของผู้บริโภค ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทำให้บริษัทต้องรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ และการที่บริษัทฯ อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ก็น่าจะบริหารจัดการอะไรได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากผู้ลงทุนในตลาดหุ้น

เช่นเดียวกับที่สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า การเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้ Skechers สามารถรับมือกับสงครามการค้า โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันจากตลาดหุ้นและก็ไม่จำเป็นต้องรายงานข้อมูลบริษัทอีกต่อไป ดังนั้น Skechers ก็จะสามารถดำเนินมาตรการปกป้องธุรกิจจากผลกระทบของภาษีศุลกากรและจะสามารถดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยคุณอาบิเกล กิลมาร์ติน (Abigail Gilmartin) เป็นนักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) คาดการณ์ว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นของเศรษฐกิจมหภาคจากความตึงเครียดทางการค้า ทั้งนี้ การทำธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากจริง ๆ สำหรับภาคค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมรองเท้าที่ต้องพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคแล้วก็ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากต่างประเทศ และขณะนี้กำลังตกเป็นเป้าหมายของสงครามการค้าของประธานาธิบดีคุณโดนัลทรัมป์ 

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Skechers เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอีกหลายราย รวมถึง Nike และ Adidas อเมริกา ที่ได้ร่วมลงนามในจดหมายซึ่งเขียนโดย กลุ่มการค้า ผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกรองเท้าแห่งอเมริกา (Footwear Distributors and Retailers of America) เรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับรองเท้า อย่างไรก็ตาม Skechers ไม่ได้ระบุว่าห่วงโซ่อุปทานของบริษัทอยู่ในประเทศจีนมาเพียงใด ระบุเพียงว่า ธุรกิจ 2 ใน 3 ส่วนของบริษัทอยู่นอกสหรัฐอเมริกา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน Skechers ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อีกหลายรายที่ได้ยกเลิกการให้คำแนะนำหรือคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปี 2025 (ปี พ.ศ. 2568) โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคที่เกิดจากนโยบายการค้าโลก โดยบริษัทต่าง ๆ ต้องรับมือกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงส่งผลกระทบต่อกลุ่มรองเท้าและเครื่องแต่งกายจากภาษ๊ศุลกากร

โดย Skechers ก่อตั้งขึ้นมาโดยตระกูลกรีนเบิร์ก ตั้งแต่ปี 1992 (ปี w.ศ. 2535) นับจนถึงปัจจุบัน แบรนด์มีอายุถึง 33 ปี โดยที่ธุรกิจเริ่มต้นจากการขายรองเท้าบูทเพื่อใช้งานในงานป่าไม้ก่อน จากนั้นขยายไปเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แล้วเข้าสู่รองเท้ากีฬาหลากหลายประเภท เช่น กีฬาวิ่ง กอล์ฟ และฟุตบอล ที่เน้นสไตล์ที่สวมใส่สบายและราคาต่ำกว่า Nike และ Adidas ที่เป็นแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นบริษัทผลิตรองเท้าที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของโลก รองจาก Nike และ Adidas สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Skechers มีจำหน่ายอยู่ใน 180 ประเทศและเขตแดนผ่านช่องทางของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าพิเศษ รวมไปถึงช่องทางขายตรงถึงผู้บริโภคทางเว็บไซต์ skechers.com และร้านขาย Skechers กว่า 5,300 สาขาทั่วโลก

ด้านคุณโรเบิร์ตกรีนเบิก กล่าวในแถลงการณ์ระบุว่า Skechers กำลังก้าวสู่บทต่อไปที่ความร่วมมือครั้งนี้จะสนับสนุนทีมงานที่มีความสามารถบวกกับความเชี่ยวชาญของ 3G Capital ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้ในระยะยาว 

สำหรับ 3G Capital เป็นบริษัทการลงทุนในนิวยอร์กที่มีรากฐานมาจากบราซิล ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 (ปี พ.ศ. 2547) โดยหุ้นส่วนมหาเศรษฐีชาวบราซิล 3 ท่าน แต่ปัจจุบ้นบริหารโดยคุณอเล็กซ์ เบอห์ริง (Alex Behring) และคุณแดเนียล ชวาร์ตซ์ (Daniel Schwartz) ที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการร่วม ปัจจุบันมีพอร์ทการลงทุนอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยปี 2010 (ปี พ.ศ. 2553) 3G Capital ได้เข้าซื้อกิจการ Burger King ต่อมาควบรวมกิจการกับ Tim Hortons ปัจจุบันมี 2 แบรนด์อยู่ภายใต้บริษัท เรสเตอรองต์ แบรนด์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งสร้างผลตอบแทนที่งอกเงยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา สำหรับการเข้าซื้อกิจการไฮนซ์ (Heinz) และคราฟต์ (Kraft) ร่วมกับ วอร์เรน บัฟเฟต กลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังและได้ถอนการลงทุนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการเข้าไปซื้อหุ้นร้อยละ 75 ของฮันเตอร์ ดักลาส (Hunter Douglas) ที่เป็นบริษัทติดตั้งกระจกหน้าต่าง ล่าสุดก็ข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการ Skechers ครั้งนี้ ถือเป็นข้อตกลงครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีของ 3G Capital  

------------------------------------------- 

ที่มา : TNN Thailand

Image Credits: Business of Fashion

กฎระเบียบเครื่องหนัง, Skechers, 3G Capital, shocked both, fashion, financial, worlds, THTI, Fashion Intelligence Unit, FIU, FIU_'68