หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / อุตสาหกรรมรองเท้าของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีใหม่ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศใช้

อุตสาหกรรมรองเท้าของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีใหม่ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศใช้

กลับหน้าหลัก
04.02.2568 | จำนวนผู้เข้าชม 184

อุตสาหกรรมรองเท้าของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีใหม่ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศใช้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568) เพื่อกำหนดภาษีในวงกว้างสำหรับสินค้าต่าง ๆ รวมถึงรองเท้า จาก 3 คู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และจีน ตามลำดับ

Image Credits: Paul Weaver on Unsplash

สินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกจะถูกเก็บภาษี 25% ยกเว้นผลิตภัณฑ์พลังงานของแคนาดาที่จะถูกเก็บภาษี 10% สินค้าจากจีนจะถูกเก็บภาษี 10% ภาษีเหล่านี้ถูกบังคับใช้ภายใต้กฎหมาย International Emergency Economic Powers Act: IEEPA และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์

ถึงแม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะอ้างว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลเสียในวงกว้างต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ

โดยคุณ Matt Priest ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานสมาคมผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกรองเท้าแห่งอเมริกา (Footwear Distributors and Retailers of America: FDRA) กล่าวว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันที่ทำงานหนักต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงและค่าครองชีพที่สูงขึ้นในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งในหลายครัวเรือนยังคงต้องดิ้นรนเพื่อจ่ายค่าสินค้าจำเป็นที่พวกเขาต้องซื้อเพื่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร ของชำ เสื้อผ้า และรองเท้า"

"ภาษีทำให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าจำเป็น เช่น รองเท้า ที่สูงขึ้น ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้ท่านประธานาธิบดีทรัมป์และทีมเศรษฐกิจดำเนินการทบทวนพร้อมรีบแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการกำหนดภาษีใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวชาวอเมริกันในทันที" คุณ Priest กล่าวสรุป

ทั้งนี้ สมาคมเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าอเมริกา หรือ American Apparel & Footwear Association ก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีทั้งหมดที่เรียกเก็บจากสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน ซึ่งเป็น 3 คู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

“การดำเนินการด้านภาษีในวงกว้างทั้งต่อเม็กซิโก แคนาดา และจีน ที่ประกาศในครั้งนี้ คาดว่าอาจส่งผลให้เกิดต้นทุนมหาศาลต่อเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เกิดสงครามภาษีที่ทวีความรุนแรงและสร้างความเสียหาย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อตลาดส่งออกสำคัญที่เกษตรกรและผู้ผลิตของสหรัฐฯ ต้องการ ฉะนั้นควรจะสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพันธมิตรข้อตกลงการค้าเสรีของเรา ไม่ใช่ดำเนินการใด ๆ ที่จะตั้งคำถามต่อรากฐานที่แท้จริงของความร่วมมือเหล่านี้” คุณ Steve Lamar ประธานและซีอีโอของ AAFA แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้ แคนาดาและเม็กซิโกประกาศเตรียมตอบโต้ด้วยภาษีที่คล้ายกันต่อสินค้าสหรัฐฯ โดยแคนาดาภายใต้การนำของประธานาธิบดี Justin Trudeau จะเก็บภาษี 25% ที่มูลค่า 155 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงเสื้อผ้าและรองเท้า ส่วนรัฐบาลจีนระบุว่าจะใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและจะยื่นเรื่องต่อองค์การการค้าโลก (WTO)

ล่าสุด

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจระงับการเก็บภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเพื่อดำเนินการคลายความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงชายแดนและการค้ายาเสพติด ในทางกลับกัน จีนประกาศว่าจะเก็บภาษี 15% สำหรับถ่านหินและผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว และภาษี 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป

-------------------------------------------

ที่มา : World Footwear  

Image Credits: Paul Weaver on Unsplash

กฎระเบียบเครื่องหนัง, US, New US tariffs, footwear, industry, administration, THTI, Fashion Intelligence Unit, FIU, FIU_'68