หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ในสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่าจะใช้ถุงพลาสติกถึง 7 พันล้านใบ ภายในปี 2030

ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ในสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่าจะใช้ถุงพลาสติกถึง 7 พันล้านใบ ภายในปี 2030

กลับหน้าหลัก
31.03.2568 | จำนวนผู้เข้าชม 27

ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ในสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่าจะใช้ถุงพลาสติกถึง 7 พันล้านใบ ภายในปี 2030

จากการศึกษาที่จัดทำโดย DS Smith ซึ่งเป็นบริษัทด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนและบริษัทในเครือของ International Paper พบว่า ร้อยละ 91 ของถุงหลายพันล้านใบที่ใช้ในการจัดส่งสินค้าออนไลน์ รวมถึงสินค้าแฟชั่นไปลงเอยที่หลุมฝังกลบหรือถูกเผา

Online fashion retailers are projected to deliver 7bn plastic bags to UK shoppers by 2030. Credit: DS Smith/Headland.

จากการวิจัยของ Development Economics พบว่า ในปีที่ผ่านมา ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ในสหราชอาณาจักรแจกจ่ายถุงพลาสติกให้ผู้บริโภคสูงถึง 941 ล้านใบ หรือเฉลี่ยประมาณ 2.6 ล้านใบต่อวัน แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้ค้าปลีกที่มีหน้าร้านจริงและผู้ค้าปลีกออนไลน์ในการลดการใช้ถุงพลาสติก โดยนับตั้งแต่มีการเก็บค่าธรรมเนียมถุงพลาสติกในสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2558 (ปี 2015) ร้านค้าปลีกทั่วไปมีการใช้ถุงพลาสติกลดลงถึงร้อยละ 98

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมานิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น การใช้ถุงพลาสติกในภาคอีคอมเมิร์ซจึงเพิ่มสูงขึ้น 

โดยมีการคาดการณ์ว่า หากแนวโน้มปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป จำนวนถุงที่ใช้จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ภายในปี พ.ศ. 2573 (ปี 2030) ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ของยอดขายแฟชั่นออนไลน์ และอาจนำไปสู่การส่งถุงพลาสติกสำหรับจัดส่งสินค้าถึง 1.3 พันล้านใบต่อปีไปยังครัวเรือนในสหราชอาณาจักรในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสะสมเป็นประมาณ 6.9 พันล้านใบในระยะเวลา 5 ปี

ขณะที่อัตราการรีไซเคิลถุงเหล่านี้ยังคงอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยมีเพียงร้อยละ 9 ของถุงที่ใช้ในการค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ในสหราชอาณาจักรเท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล ดังนั้น คิดเป็นร้อยละ 91 จึงถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบหรือถูกเผาทำลาย

ในปีที่ผ่านมา พบว่า มีถุงพลาสติกมากถึง 857 ล้านใบถูกกำจัดด้วยวิธีดังกล่าว หากรูปแบบนี้ยังคงอยู่ การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าภายในปั พ.ศ. 2573 (ปี 2030) อาจมีถุงพลาสติกมากกว่า 1 พันล้านใบต่อปี ที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากการสะสมในหลุมฝังกลบหรือการเผา

ทั้งนี้ CEO ฝ่ายบรรจุภัณฑ์ของ DS Smith โดยคุณ Stefano Rossi ระบุว่า "จากการทำงานร่วมกับแบรนด์ใหญ่ที่สุดของโลก เราประเมินว่าเราได้ลดการใช้พลาสติกไปแล้วกว่า 1 พันล้านชิ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่เรายังตั้งเป้าหมายว่าจะต้องลดการใช้ให้น้อยลงกว่านี้ และระบุเพิ่มเติมว่า "แม้ว่าการซื้อสินค้าออนไลน์จะได้รับความนิยมมากขึ้น และผู้บริโภคต่างนิยมซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ยังเปลี่ยนจากการใช้ถุงพลาสติกไปใช้ถุงประเภทอื่นได้ช้ากว่าร้านค้าทั่วไปที่มีหน้าร้านจริง"

จากการศึกษาพบว่า ผู้ค้าปลีกแฟชั่นดิจิทัลหลายรายได้เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Zalando ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในยุโรปที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ได้เปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบเดิมมาใช้ถุงส่งสินค้าที่เป็นกระดาษซึ่งใช้วัสดุรีไซเคิลและเส้นใยที่ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) ในปี พ.ศ. 2563 (ปี 2020) และผลตอบรับจากฐานลูกค้าของ Zalando ต่อการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปในเชิงบวก ซึ่งตั้งแต่เริ่มใช้ถุงกระดาษที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลและเส้นใยบริสุทธิ์ที่ได้รับการรับรองจาก FSC ในปี 2020 Zalando พบว่า ความพึงพอใจของลูกค้าต่อบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีก่อน

คุณ David Fischer ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนด้านลอจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์ของ Zalando กล่าวว่า "การเปลี่ยนจากถุงส่งสินค้าพลาสติกมาเป็นกระดาษเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ อัตราการยอมรับที่สูงทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าดำเนินการถูกทางแล้วกับการใช้ถุงกระดาษที่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายในประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป"

คุณ Rossi เสริมว่า "แบรนด์อย่าง Zalando พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ แต่ก็มีอุปสรรคนั่นคือ ทางเลือกที่เป็นกระดาษยังมีไม่เพียงพอ และอุตสาหกรรมยังต้องก้าวขึ้นมาเพื่อจัดหาทางเลือกเหล่านั้น”

“ธุรกิจส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับราคาเป็นหลัก แต่การยังคงใช้พลาสติกต่อไปนั้น มีราคาที่ต้องจ่าย เพราะผู้บริโภคไม่ต้องการ และแบรนด์ต่าง ๆ ก็เสี่ยงต่อชื่อเสียงหากมองข้ามสิ่งนั้นไป เราคิดว่ากฎหมายสามารถและควรมีข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นสำหรับทุกฝ่าย โดยการทยอยเลิกใช้พลาสติกบางชนิด เพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันที่เท่าเทียม ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม การลงทุน และการแข่งขันที่ดีในการหาสิ่งอื่นมาทดแทนพลาสติก”

การเติบโตที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชนและประชาชนที่มีต่อการสนับสนุนวัสดุรีไซเคิล

การศึกษาดังกล่าวยังเผยให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างมากจากประชาชนในการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้มากขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค 2,000 คน ทั่วสหราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 19 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2025 พบว่า คิดเป็นร้อยละ 67 ของชาวอังกฤษเห็นด้วยกับการเลิกใช้ถุงพลาสติกเมื่อมีวัสดุอื่นทดแทน และคิดเป็น 60 ต้องการให้สินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์บรรจุในกล่องกระดาษหรือห่อด้วยกระดาษ

และความคิดเห็นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร (UK shoppers) แสดงถึงความรับผิดชอบและความต้องการ โดยครึ่งหนึ่งรู้สึกผิดเกี่ยวกับการใช้พลาสติก และเชื่อว่ากลุ่มผู้ค้าปลีก คิดเป็นร้อยละ 51 ถัดมา คือ กลุ่มบริษัทบรรจุภัณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 44 และภาครัฐบาล คิดเป็นร้อยละ 24 ตามลำดับ ควรเป็นกลุ่มผู้นำในการลดการใช้พลาสติก และเกือบครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 46 กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกแฟชั่นที่ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้

- - - เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว N Brown ผู้ค้าปลีกออนไลน์ในสหราชอาณาจักร ได้เริ่มใช้บรรจุภัณฑ์ที่ละลายน้ำได้สำหรับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแบรนด์ของตนเอง และผู้ค้าปลีกรายอื่น ๆ ก็ได้รับการสนับสนุนให้ทำตาม

-------------------------------------------

Source: JustStyle.com 

Photo credit: DS Smith/Headland.

สิ่งแวดล้อมสิ่งทอ, UK, online, retailers, plastic, bag, 2030, THTI, Fashion Intelligence Unit, FIU, FIU_'68