
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาผู้ผลิตของไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2567 หดตัวเล็กน้อยจากราคาสินค้า หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่มีทิศทางเคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลก และราคาสินค้าหมวดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดโลก โดยเฉพาะประเทศผู้ส่งออกในภูมิภาค ส่งผลให้ภาพรวมของราคาผู้ผลิต ยังคงมีความผันผวนในระดับที่ทรงตัว
สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เท่ากับ 111.3 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ลดลง 0.3% เป็นผลจากการลดลงของราคาสินค้า หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลง 0.3% จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า อ้อย หัวมันสำปะหลังสด โคมีชีวิต ยางพารา ผลปาล์มสด ทุเรียน และสับปะรดโรงงาน สุกรมีชีวิต กุ้งแวนนาไม
ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลง 0.3% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เนื่องจากเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก
กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม Integrated Circuit (IC) และอุปกรณ์หน่วยรับข้อมูล/แสดงผล ตามปัจจัยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง กลุ่มเคมีภัณฑ์และ
ผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เอทานอล สารพอลิเมอร์และสารเคมีอินทรีย์อื่น ๆ เม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น ปรับราคาตามวัตถุดิบที่ลดลง
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อปลาสดแช่แข็ง ปลากระป๋อง ปลาป่น มันเส้น ข้าวนึ่ง และกลุ่มน้ำตาลทราย ตามอัตราแลกเปลี่ยนและความต้องการของตลาดโลก และกลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแท่ง เหล็กแผ่น ท่อเหล็กกล้า เหล็กเส้น เหล็กฉาก เหล็กรูปตัวซี ตามปัจจัยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางนอกและยางในรถยนต์ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และน้ำยางข้น เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องมีความต้องการเพิ่มขึ้น
กลุ่มยานยนต์ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถกระบะ รถบรรทุกขนาดเล็กและรถบรรทุกขนาดใหญ่ ปรับราคาขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงงาน
กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เคลื่อนไหวตามอุปสงค์ของตลาดโลก ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 0.5 จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว (NG) และสินแร่โลหะ (สังกะสี) ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก
สำหรับแนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนมีนาคม 2568 คาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวในอัตราค่อนข้างต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการบริโภคในภาพรวมที่สูงขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การลดอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน และหนี้ครัวเรือนที่ลดระดับลงอย่างต่อเนื่องคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิตเพื่อการส่งออก ทดแทนสินค้าจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกเดิมที่ได้รับผลจากนโยบายทางการค้าสหรัฐอเมริกา
ส่วนปัจจัยกดดัน ได้แก่ ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรในภาพรวมที่มากกว่าปีก่อน กระทบต่อราคาขายในประเทศและการแข่งขันในตลาดโลก
การนำเข้าสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทางการค้าฯ กดดันราคาผู้ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ
ราคาพลังงานที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในทิศทางใด ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับตัวผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ โดยมีปัจจัยจากภายนอกเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดผลกระทบ
ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เห็นว่าควรมีมาตรการหรือแนวทางในการรักษาเสถียรภาพของผู้ประกอบการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาในตลาดโลก เช่น
การให้โควต้าสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปลูกพืชเศรษฐกิจทางเลือก เพื่อจูงใจให้เกษตรกรบางส่วนลดพื้นที่ในการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักที่ราคามีความผันผวนขึ้นกับตลาดโลก
ส่งเสริมการกระจายตลาดของผลผลิตทางการเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะในตลาดส่งออกที่มีศักยภาพ สำหรับภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐควรผลักดันสนับสนุนการร่วมลงทุนจากต่างชาติ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีในภาคการผลิต ยกระดับอุตสาหกรรมในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/621009