อินโดนีเซียขยายระยะเวลาการเก็บภาษีนำเข้าสิ่งทอท่ามกลางภาวะอุตสาหกรรมซบเซา

อินโดนีเซียขยายระยะเวลาการเก็บภาษีนำเข้าสิ่งทอท่ามกลางภาวะอุตสาหกรรมซบเซา

รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศขยายเวลามาตรการป้องกันการนำเข้าสินค้า เช่น ผ้า, พรม, และวัสดุหุ้มอื่น ๆ เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อปกป้องและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศ

An influx of textile imports, particularly from China, has triggered a drop in employment, with the workforce declining from 3.98 million in 2023 to 3.87 million in 2024. Credit: Shutterstock

การขยายเวลามาตรการดังกล่าวได้ถูกระบุในกฎระเบียบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใหม่สองฉบับ คือ PMK No. 48/2024 สำหรับผ้า และ PMK No. 49/2024 สำหรับพรมและวัสดุหุ้มอื่น ๆ

สื่อท้องถิ่น หรือ ‘Jakarta Global’ รายงานว่ามาตรการนี้ถูกนำมาใช้เนื่องจากภาคส่วนผ้าและผลิตภัณฑ์ผ้า (TPT) ยังคงเผชิญกับปัญหาความต้องการภายในประเทศและการส่งออกที่ลดลง รวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการนำเข้าจากจีน

ทั้งนี้ สื่อดังกล่าวอธิบายว่า การตัดสินใจขยายเวลามาตรการนี้ตามแนวโน้มที่น่ากังวลเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานของอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของการนำเข้าผ้า โดยเฉพาะจากประเทศจีน ส่งผลให้การจ้างงานลดลง โดยจำนวนแรงงานลดลงจาก 3.98 ล้านคนในปี 2023 เป็น 3.87 ล้านคนในปี 2024

คุณ Febrio Kacaribu หัวหน้าหน่วยงานนโยบายการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวกับสื่อดังกล่าวว่า “รัฐบาลกำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและจัดหาวิธีการสนับสนุนการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม TPT ในระยะยาว”

การลดลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการสูญเสียงานที่กว้างขึ้นในอินโดนีเซีย โดยกระทรวงแรงงานรายงานการเลิกจ้างงาน 32,064 คน ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 21.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

Jakarta Global ระบุว่า สมาคมผู้ผลิตเส้นใยและเส้นด้ายของอินโดนีเซีย (Apsyfi) รายงานว่ามีโรงงานผ้าประมาณ 30 แห่ง ปิดกิจการระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2024 ส่งผลให้มีการเลิกจ้างงาน 10,800 คน ตัวเลขนี้สูงกว่าการเลิกจ้าง 7,200 คน ที่ถูกรายงานไปในปี 2023 เพียงในเมืองบันดุงและซูราการ์ตา

เพื่อเน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมผ้า สหพันธ์คนงานอินโดนีเซีย (KSPN) กล่าวว่ามีการเลิกจ้างงานเกือบ 50,000 คนในอุตสาหกรรม TPT ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงต้นเดือนมิถุนายน 2024 อย่างไรก็ตาม Jakarta Global กล่าวว่าขอบเขตที่แท้จริงของการสูญเสียงานอาจจะถูกบอกกล่าวน้อยเกินไป เนื่องจากหลายบริษัทไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยการเลิกจ้างเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับธนาคารและลูกค้า

สำหรับภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือชวาตะวันตกและชวากลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมผ้าส่วนใหญ่ของประเทศอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานผ้าและเครื่องแต่งกายของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ 10 อันดับแรกของผู้ส่งออกเครื่องแต่งกายไปยังสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ประเทศอินโดนีเซียมีส่วนแบ่งการตลาดลดลง 0.3% ขณะที่ปริมาณการส่งออกของประเทศลดลง 7.2% หรือที่มูลค่า 47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

-------------------------------------

Source: JustStyle.com 

Photo credit: Shutterstock