TH
เครื่องประดับ กลายเป็นสินค้าขายดีอันดับต้น ๆ ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Luxury goods) ระหว่างช่วงปลายปี 2023 ถึงไตรมาสแรกของปี 2024 โดยได้รับความนิยมจากทั้งกลุ่มลูกค้าระดับบนและiระดับล่าง
Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ ร่วมกับสมาคมสินค้าฟุ่มเฟือยอิตาลี หรือ Altagamma เปิดเผยผลการศึกษาตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยล่าสุด สรุปว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขายเครื่องประดับที่เติบโต เกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อเครื่องประดับเพื่อเป็นการลงทุน ซึ่งแซงหน้าตลาดนาฬิกาหรูหรา
Bain & Company อธิบายว่า "เครื่องประดับโดดเด่นในฐานะสินค้าขายดีอันดับต้น ๆ ในตลาดปัจจุบัน ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อด้วยมุมมองการลงทุน ส่งผลให้ยอดขายเครื่องประดับเติบโตแซงนาฬิกา และยังคงแข็งแกร่งทั้งในกลุ่มสินค้าหรูหราระดับไฮเอนด์และระดับเริ่มต้น"
อย่างไรก็ตาม ตลาดจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยที่ใหญ่ที่สุด กำลังเผชิญแรงกดดัน ท่ามกลางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลาง Bain ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแส "อายที่จะใช้ของฟุ่มเฟือย" ในจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ ระดับการว่างงานที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีในจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ชะลอการใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือย
Bain สรุปว่า ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกทะลุ 1.5 ล้านล้านยูโร (1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2023 สร้างสถิติใหม่ แต่ยอดขายในไตรมาสแรกของปี 2024 กลับชะลอตัวลง ยกเว้นบางภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่นและยุโรป โดยคาดการณ์ว่า รายได้จะลดลงระหว่างร้อยละ 1-3
---------------------------------------
Source: RAPAPORT.com
Image: A jewelry-store display. (Shutterstock)
