พาณิชย์ เดินสายโรดโชว์สินค้าไทยเจาะ3ลาตินอเมริกา

กลับหน้าหลัก

ดันส่งออกครึ่งปีหลัง พาณิชย์เดินสายโรดโชว์3 ประเทศภูมิภาคลาตินอเมริกา “อาร์เจนตินา-ชิลี-บราซิล”ขายสินค้าไทยได้ทันที 391.4 ล้านบาท หารือกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เปิดทางค้าขายเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อสินค้าไทย

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกที่เหลือของปีนี้กรมเร่งเครื่องเดินหน้สผลักดันสินค้าไมยไปนยังตลาดใหม่ๆแต่ยังคงรักษาตลาดเก่า โดยในช่วงงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมากรมได้นำเอกชนทั้งผู้นำ-ผู้ส่งออกในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

เยือนภูมิภาคลาตินอเมริกา ประกอบด้วยอาร์เจนตินา ชิลี และบราซิล เพื่อขยายตลาดส่งออกตามกลยุทธ์ในการบุกเจาะตลาดเป็นรายภูมิภาค และรายคลัสเตอร์

ที่กรมฯได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ในการผลักดันการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยประสบความสำเร็จจากการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้า สามารถจำหน่ายสินค้าไทยได้ รวมมูลค่า 391.4 ล้านบาท

โดย มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 18 บริษัท ผู้นำเข้าอาร์เจนตินา 43 บริษัทเกิดการจับคู่ธุรกิจจำนวน 96 คู่ มูลค่าการเจรจาการค้าในงานจำนวน 2.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 74 ล้านบาท และผู้นำเข้าคาดการณ์ว่าจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปี มูลค่าประมาณ 128 ล้านบาท และยังมีการลงนาม MOU จำนวน 3 คู่ ในกลุ่มสินค้าอาหารและเส้นด้ายยางลาเท็กซ์ รวมมูลค่า 1,454,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 50 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาการค้า252 ล้านบาท

สำหรับชิลีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 18 บริษัท ผู้นำเข้าชิลี 62 บริษัท เกิดการจับคู่ธุรกิจจำนวน 155 คู่ และมูลค่าการเจรจาการค้าในงานจำนวน 154,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,544,000 บาท และผู้นำเข้าคาดการณ์ว่าจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปี มูลค่าประมาณ 54 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาการค้า 60 ล้านบาท

ส่วนบราซิลกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 19 บริษัท ผู้นำเข้าบราซิล 19 บริษัท เกิดการจับคู่ธุรกิจจำนวน 103 คู่ มูลค่าการเจรจาการค้าในงานจำนวน 145,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5.2 ล้านบาท และคาดการณ์สั่งซื้อหนึ่งมูลค่า 1,603,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 57.7 ล้านบาท และยังมีการลงนาม MOU จำนวน 3 คู่ ในกลุ่มสินค้าอาหาร มูลค่า 460,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 16.5 ล้านบาทรวมมูลค่าการเจรจาการค้า 79.4 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้หารือกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ห้างค้าส่งค้าปลีก และสมาคมการค้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์เพิ่มโอกาสในการร่วมมือในการค้าขาย และผลักดันการส่งออกสินค้าไทย โดยสนใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ไทยจัดขึ้น ทั้งงานแสดงสินค้าอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงงานแสดงสินค้าอื่นๆ รวมทั้งจะร่วมมือกับไทยในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า เพื่อแนะนำสินค้าไทย และร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยในการทำธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/economy/571528