
คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชาปีนี้เติบโต 5.2% เท่ากับปีที่ผ่านมา
ธนาคารโลก (หรือ World Bank: WB) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ในปี พ.ศ. 2566 ประมาณร้อยละ 5.2 เช่นเดียวกับที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2565 เนื่องจากประเทศจีนได้กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ในขณะที่ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะอาเซียนแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทั่วโลกยังคงลดลง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของ กัมพูชาในปี พ.ศ. 2566 เป็นร้อยละ 5.6 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 6.6 เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและวิกฤตของ Covid-19
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (Mr.Vongsey Vissoth) ได้เปิดเผยว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของ Covid-19 จะคลี่คลายลง แต่วิกฤตจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่จบลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน ซึ่งเป็นผู้สั่งซื้อรายใหญ่ของกัมพูชา ดังนั้น กัมพูชาอาจจะเผชิญกับความเสี่ยงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น นอกจากสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
จากการคาดการณ์ของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชาเกี่ยวกับการเติบโตของการส่งออกในปี พ.ศ. 2566 ดังนี้
1) ภาคเครื่องนุ่งห่มจะหดตัวลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.5 เนื่องจากอุปสงค์ภายนอกที่ลดลง โดยเฉพาะจากตลาดสหภาพยุโรป
2) การผลิตที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มจะเติบโตประมาณร้อยละ 11.7 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากภาคอาหารและเครื่องดื่มภายในประเทศ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ แผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งออกที่ได้รับการสนับสนุนจากความต้องการภายนอก โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา
3) ธุรกิจการค้า (ขายส่งและขายปลีก) การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และการเกษตร จะขยายตัวร้อยละ 6.5, 1.1, 1.2 และ 1.1
4) ภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตที่ร้อยละ 32.7 จากการเพิ่มขึ้นของการเดินทางทั้งภายในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
5) อัตราเงินเฟ้อ จะลดลงเหลือประมาณร้อยละ 3.2 จากร้อยละ 5 ของปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์จะค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
-------------------------------------------------
ที่มา :
1) Phnom Penh Post
2) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
Photo credit : www.freepik.com