ผู้ผลิตญี่ปุ่นย้ายฐานจากจีนมาอาเซียนมากขึ้น

ผู้ผลิตญี่ปุ่นย้ายฐานจากจีนมาอาเซียนมากขึ้น

ผู้ผลิตญี่ปุ่นมีแผนเตรียมย้ายฐานการผลิตเสื้อผ้าออกจากจีน และมีแผนมาลงทุนในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนรับมือถึงประเด็นปัญหาเรื่องกำลังซื้อหดตัว ต้นทุนพุ่ง และค่าแรงแพง โดยสัญญาณการขยับตัวของแบรนด์เสื้อผ้าในญี่ปุ่น (ของแบรนด์ยูนิโคล่) เพื่อหาฐานการผลิตแห่งใหม่นอกเหนือจากจีน โดยประเทศปลายทางที่ซัพพลายเออร์ของผู้ผลิตเสื้อผ้าอย่างยูนิโคล่มองไว้ คือ ประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยอาจจะมาในแถวประเทศที่อยู่ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP เช่น เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย เพราะได้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หรือประเทศบังกลาเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่บริษัทเสื้อผ้าของญี่ปุ่นให้ความสนใจ โดยมีจุดแข็งในเรื่องของค่าจ้างแรงงานที่ถูก     

ทั้งนี้สินค้าแฟชั่นญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเครื่องแต่งกายเคยย้ายฐานออกจากญี่ปุ่นไปจีน เพื่อใช้แรงงานถูก โดยอาดัสเทรีย และอาโอยามา เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นซัพพลายให้กับยูนิโคล่ ต่างก็มีแผนที่จะย้ายฐายการผลิตมาอาเซียนเช่นกัน และจากผลสำรวจบริษัทผู้ผลิตในญี่ปุ่น กว่าร้อยละ 50 พบว่า สนใจที่จะเข้าลงทุนในเวียดนาม ภายในปี 2026

โดยหากเปรียบเทียบค่าจ้างแรงงานในประเทศสำคัญ ๆ จะเห็นว่า ค่าแรงงานในประเทศจีนไม่ถูกอีกต่อไป โดยในเมืองกวางโจว (ซึ่งเป็นตลาดเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในจีน) มีค่าจ้างแรงงานต่อเดือนเฉลี่ยที่ 670 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 23,000 บาทต่อเดือน ขณะที่นครโฮจิมินห์ ในประเทศเวียดนาม มีค่าจ้างแรงงานต่อเดือนเฉลี่ยที่ 270 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 9,400 บาทต่อเดือน และที่กรุงธาดา ในประเทศบังกลาเทศ ค่าจ้างแรงงานต่อเดือนเฉลี่ยที่ 120 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 4,200 บาทต่อเดือน ขณะที่ประเทศไทย มีค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยที่ 8,700 บาทต่อเดือน เนื่องจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเปนอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ค่าแรงจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อต้นทุนของผู้ประกอบการและผู้ผลิต

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ที่มา : เจโทร และ Business Watch

เรียบเรียง : ศูนย์ข้อมูลฯ (แผนกข้อมูลอุตสาหกรรม) สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ