นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าวันที่ 6-7 ก.พ.นี้จะนำคณะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญของ 2 ประเทศ โดยจะพาภาคเอกชนประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือและสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยในการหาลู่ทางทำการค้ากับตลาดยูเออี ซึ่งเป็นตลาดใหม่และเป็นตลาดที่มีความสำคัญที่ไทยจะรุกมากในปีนี้ โดยจะพบกับรัฐมนตรีการค้าต่างประเทศของยูเออี เพื่อหารือการทำข้อตกลงทางการค้าร่วมกันต่อไปในอนาคต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้จะมีการลงนามจัดตั้งสภาธุรกิจไทยกับยูเออี ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้มีสภาธุรกิจเกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่ทำกับซาอุดิอาระเบีย จะช่วยให้เอกชนทั้ง 2 ฝ่ายค้าขายระหว่างกันพัฒนาการค้าระหว่างกันได้ในเวลาที่รวดเร็ว
และจะลงนาม MOU ร่วมกันระหว่างภาคเอกชนไทยที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์หรือระบบการขนส่งกับดูไบเวิลด์หรือ DP World ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มีเครือข่ายเชื่อมโยงการขนส่งทางเรือทางอากาศทั่วโลก กับท่าเรือทั่วโลก 78 ท่าเรือ
และสนามบินทั่วโลก 240 สนามบิน จะช่วยให้การบริการไทยส่งสินค้าไปยังท่าเรือและสนามบินทั่วโลกได้รับสิทธิพิเศษหลายประการรวมถึงนำเอกชนไทยไปขายสินค้าให้กับยูเออี คาดว่า2 วันไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงเปิดตลาดไทยในยูเออี ซึ่งจะมีสินค้าไทยจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 30 คูหาด้วย
“คาดว่าการเดินทางไปเที่ยวนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้ประเทศไทยทั้งปี66 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทเฉพาะตลาดยูเออีในปีนี้ตั้งเป้าส่งออกไว้ 148,000 ล้านบาท สินค้าที่เป็นดาวรุ่งเช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณี ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น”
ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/economy/555315