หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / ส่อง 14 อุตสาหกรรมน่าลงทุนในอินเดียปี 66

ส่อง 14 อุตสาหกรรมน่าลงทุนในอินเดียปี 66

กลับหน้าหลัก
25.01.2566 | จำนวนผู้เข้าชม 300

ส่อง 14 อุตสาหกรรมน่าลงทุนในอินเดีย ภายใต้นโยบายอินเดียพึ่งตนเอง สั่งแต่ละรัฐกระตุ้นการลงทุนจริงจัง ชี้เป็นโอกาสไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ได้รายงานโอกาสการเข้าไปลงทุนในอินเดีย หลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนใน 14 สาขาอุตสาหกรรมภายใต้นโยบายอินเดียพึ่งตนเอง และการลงทุนร่วมกับสตาร์ทอัป เพื่อขยายตลาดในอินเดีย  


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)


โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานรายละเอียดเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและการค้าภายใน (DPIIT) ได้ทบทวนและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจูงใจและอำนวยความสะดวกในการลงทุนใน 14 สาขา เช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุตสาหกรรมขั้นกลางต่าง ๆในปี 2566 มากขึ้น ภายใต้นโยบายอินเดียพึ่งตนเอง โดยเน้นให้แต่ละรัฐในอินเดียเร่งกระตุ้นการลงทุนอย่างจริงจัง



ทั้งนี้ อินเดียยังได้ใช้สตาร์ทอัปเป็นกลไกหนึ่งในการระดมทุนและขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว และเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัป เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในอินเดีย โดยปัจจุบันอินเดียมีสตาร์ทอัปแล้วประมาณ 84,000 ราย ที่ผ่านการคัดกรองและขึ้นทะเบียนโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและการค้าภายใน DPIIT โดยในช่วงปี 2564-2565 มีสตาร์ทอัปได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนเงินเริ่มต้นสำหรับสตาร์ทอัป (SISFS) แล้ว มูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านบาท

และอินเดียยังเร่งพัฒนาระบบนวัตกรรมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมรองรับการเติบโตของสตาร์ทอัป ซึ่งดัชนีนวัตกรรมโลก 2022 (Global Innovation.Index 2022) ประเมินว่าอินเดียได้พัฒนาระบบนิเวศน์เพื่อสตาร์ทอัปให้ดีขึ้นจากอันดับที่ 81 ในปี 2558 เป็นอันดับที่ 40 ในปี 2565 โดยสามารถยกระดับได้ถึง 41 อันดับภายใน 7 ปี ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของอินเดียที่จะปรับตัวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้ในไม่ช้า

   “จากนโยบายของรัฐบาลอินเดีย ที่ออกมาเพื่อดึงดูดการลงทุน ทั้งการลงทุนใน 14 สาขา และการร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัป จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนของไทย จะพิจารณาเข้าไปลงทุนในอินเดีย เพราะรัฐบาลอินเดียเปิดกว้าง และถือเป็นช่องทางลัดอีกทางหนึ่ง ในการบุกเจาะขยายตลาดอินเดีย”

โดยที่ผ่านมา มีธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยหลายรายเข้าไปลงทุนในอินเดียแล้ว ทั้งกลุ่มสินค้าอาหาร แปรรูป สัตว์น้ำ นม โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง วัสดุก่อสร้าง เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ในครัวและในสำนักงาน ชิ้นส่วนยานยนต์และพลังงานแสงอาทิตย์ และภาคบริการ เช่น ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการทางธุรกิจสำหรับสตาร์ทอัป รวมทั้งธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งทางเรือและศูนย์กระจายสินค้า แต่ก็ยังมีโอกาสสำหรับสาขาที่ไทยมีศักยภาพอีกหลายสาขา เช่น โรงแรม บริการสุขภาพและความงาม บริการก่อสร้างและตกแต่ง ซึ่งสามารถนำสินค้าจากไทยมาใช้และจัดแสดงในกิจการเหล่านี้ได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีช่องทางลัดในการขยายธุรกิจไทยในอินเดีย คือ การจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อช่วยบุกเบิกและควบคุมกิจการในอินเดีย โดยเข้าไปถือหุ้นเพื่อควบคุมทิศทางและการบริหาร แต่อาศัยคนท้องถิ่นในการจัดการและดูแลบุคลากร ส่วนธุรกิจบริการ อาจพิจารณาใช้ระบบแฟรนไชส์ เป็นกลไกในการขยายสาขาในอินเดียได้อีกทางหนึ่ง ที่สำคัญ ควรจะหาผู้ร่วมลงทุนในอินเดีย โดยสามารถหาได้จากการเข้าร่วมงาน เช่น Global.Investors Summit 2023 ในแต่ละรัฐ โดยรัฐมัธยประเทศ และรัฐอุตตรประเทศ กำหนดจัดเดือนมกราคม 2566 และรัฐอานธรประเทศ เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้น

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/economy/554156

 

 

สิ่งทอ, เศรษฐกิจ, ข่าวรายวัน