เทรนด์นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของรองเท้า เพื่อชี้นำการออกแบบและพัฒนาในอนาคต

กลับหน้าหลัก

เทรนด์นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของรองเท้า เพื่อชี้นำการออกแบบและพัฒนาในอนาคต

สินค้าแฟชั่นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง นักออกแบบเริ่มสรรหาเทคโนโลยีทุกชนิดเพื่อสร้างสินค้าที่แตกต่างและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติด้านเทคโนโลยีเริ่มวางตลาด แต่เรื่องความน่าสนใจของการพบกันระหว่างวิทยาศาสตร์กับแฟชั่นยังอยู่ที่”รองเท้า”

นับตั้งแต่นวัตกรรมเทคโนโลยีการคงรูปยาง (Vulcanization Rubber - การเพิ่มคุณภาพยางธรรมชาติโดยทำปฎิกริยากับกำมะถัน) เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1839 โดยชาร์ลส์ กูดเยียร์ ที่สามารถทำให้ยางธรรมชาติมีความคงทนสูงขึ้นในช่วงอุณหภูมิที่หนาวเย็นและความร้อนสูง การผลิตรองเท้าบุ๊ทสำหรับปีนเขาสูงที่หนาวเย็น การผลิตรองเท้ากีฬาสำหรับนักกีฬาอาชีพโดย Nike, Reebok, Adidas และบริษัทอื่นๆก็เกิดขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเทคโนโลยีต่อไปนี้ เป็นการคาดการณ์ว่านวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ประเด็นใดที่จะชี้นำการพัฒนารองเท้าในอนาคต อาทิ

Enko Suspension การรับแรงกระแทก

การรับแรงกระแทกระหว่างเท้ากับพื้นเป็นเรื่องสำคัญที่นักกีฬาคำนึงถึงในการเลือกรองเท้า แรงกระแทกอาจสร้างความเสียหายให้ข้อและกระดูกอย่างรุนแรงได้ บริษัทผู้ผลิตรองเท้าจึงพยายามคิดค้นวิธีการลดแรงกระแทกด้วยหลากหลายวิธี แนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจและล้ำยุคคือการรับแรงด้วยสปริงและกระบอกอัดอากาศในระบบ Enko Suspension โดย Christian Freschi นักวิ่งชาวฝรั่งเศส เหมือนการใช้ระบบรับแรงในรถยนต์และจักรยานยน แทนการใช้วัสดุรับแรงเช่นโฟมหรือยาง โดยใช้กระบอกอัดอากาศเพื่อรับแรงกด และใช้สปริงเพื่อช่วยการดีดกลับ

Powerlace ระบบรัดเชือกอัตโนมัติ

ความยุ่งยากในการผูกเชือกเพื่อให้รองเท้ากระชับพอดีกับเท้า สร้างความรำคาญและไม่สะดวกแก่ผู้บริโภคจำนวนมาก บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Nike ได้พัฒนาระบบการรับเชือกเป็นแถบที่ข้อเท้าในปี ค.ศ.2010 (http://goo.gl/W2feHC) เลียนแบบภาพยนต์ Back to the Future แต่ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ที่การรัดข้อเท้าซึ่งอาจไม่เหมาะกับรองเท้าทุกประเภท

นาย Frederick Labbe และ The Powerteam ได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ เป็นระบบการรัดเชือกอัตโนมัติที่ใช้น้ำหนักของผู้สวมใส่เป็นกลไกในเชิงกลเพื่อรัดเชือกรองเท้าให้แน่น โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ มอเตอร์ หรือระบบไฟฟ้าใดๆ ใช้แต่แรงกดของผู้สสวมใส่ลงบนส้นเท้าเพื่อดึงเชือกให้รัดกระชับกับเท้า และคลายให้หลวมได้โดยการงัดเท้าขึ้นเท่านั้น

จอแสดงภาพบนรองเท้า

นักออกแบบรองเท้ามีความพยายามที่จะสร้างรองเท้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่เป็นสินค้าแมสเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ห้องปฏิบัติการหลายแห่งได้ทั่วโลกได้ทดลองแนวทางใหม่ๆที่สามารถแสดงภาพบนรองเท้าตามความต้องการของผู้สวมใส่ ทั้งสำหรับรองเท้ากีฬาและรองเท้าแฟชั่น มีตัวอย่างที่เด่นชัดและได้รับการกล่าวถึงในโลกออน์ไลน์ดังนี้

Lenovo’s Smart Shoes

รองเท้าที่มีจอแสดงผลแบบบิดงอได้ สามารถแสดงภาพได้หลากหลาย ทั้งข้อมูลส่วนตัว อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณแคลอรี่ที่ใช้ หรือแม้แต่อารมณ์ของผู้สวมใส่ บริษัท Lenovo ได้จัดแสดงครั้งแรกในงาน Tech World 2015 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

Volvori Timeless

iShuu Tech บริษัทเกิดใหม่จากประเทศลิทัวเนียสร้างกระแสการออกแบบรองเท้าที่สามารถเปลี่ยนลวดลายได้ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการลวดลายที่เปลี่ยนไปตามแฟชั่น โดยผลิตรองเท้าด้วยจอแสดงผลแบบ E-ink (แบบที่ใช้ในหนังสืออิเลคทรอนิคส์ Kindle ของบริษัท Amazon) ร่วมกับวัสดุดั้งเดิม เจ้าของสามารถเปลี่ยนรูปได้โดยการควบคุมผ่าน application จากสมาร์ทโฟนในระบบ iOS และ Android เพื่อเปลี่ยนภาพแล้วจอแสดงผลก็ไม่ต้องการใช้พลังงานอีก ทำให้สามารถใช้ได้ยาวนาวโดยไม่ต้องชาร์ตไฟ

Shift Sneakers เปลี่ยนเฉดสีเพื่อความปลอดภัยและเข้ากับเสื้อผ้า

การจับคู่สีรองเท้ากับเสื้อผ้าเป็นเรื่องยุ่งยากของผู้บริโภคหลายคน +rehabstudio จึงได้พัฒนาแนวคิดในการเปลี่ยนสีและลวดลายของรองเท้าได้ตามต้องการ รองเท้าที่ผลิตโดยการนำเส้นใยที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนสภาพสีตามอุณหภูมิด้วยปฏิกริยาทางเคมี (Phase Change fibers) และวัสดุที่สามารถจดจำรูปทรง (Shape Memory materials) โดยการประกอบระหว่างเส้นด้ายนำไฟฟ้า (Conductive Woven Thread) ทอไว้ระหว่างแผ่นเมมเบรนด์ เพื่อควบคุมผ้าที่ทอด้วยหลอด LEDs ขนาดเล็กที่ทอเป็นเหมือนจอแสดงผลที่บิดงอได้

นอกจากผู้สวมใส่จะสามารถควบคุมรูปแบบด้วยสมาร์ทโฟนแล้ว นักออกแบบยังเพิ่มเครื่องมือ SYNCED ให้สามารถเลือกการจัดชุดสีรองเท้าให้เข้ากับเสื้อผ้า โดยการถ่ายภาพเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ และยังสามารถเปลี่ยนสีเพื่อความปลอดภัยสำหรับการวิ่งในสภาพแสงที่แตกต่างกัน

Lechal haptic footwear ช่วยนำทาง

ห้องปฏิบัติการของบริษัท Hewlett-Packard ที่ประเทศอินเดีย พัฒนารองเท้าที่ช่วยนำทาง โดยสร้างระบบสัญญานไว้ในพื้นรองในของรองเท้า สามารถเตือนผู้สวมใส่ด้วยการสั่นเมื่อใกล้ทางแยก ส่งสัญญานว่าต้องเลี้ยวในทิศทางไหน สามารถช่วยผู้พิการทางสายตาให้เดินทางได้ปลอดภัยขึ้น โดยการตั้งค่าจุดหมายปลายทางผ่านสมาร์ทโฟนและเชื่อมโยงกับรองเท้าด้วยบลูทูธ นอกจากนี้ยังสามารถนับก้าว วัดการใช้พลังงาน และยังมีรูปทรงสวยงามด้วย

 

 

 

 

 

Garneau Carbon Team ปรับอุณหภูมิและความชื้น

ความชื้นที่อยู่ในรองเท้าเป็นปัญหาใหญ่ของการออกกำลังกาย The Garneau Carbon Team ผู้วิจัยรองเท้าสำหรับการแข่งจักรยานจึงได้เสนอแนวทางการใช้สาร Xylitol (สารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดหนึ่ง) พัฒนาเป็นส่วนประกอบของเส้นด้ายที่สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพความชื้นที่เกิดจากเหงื่อ ลดอุณหภูมิเพื่อความสบาย

Electric Cinderella รองเท้าป้องกันตัว

นอกเหนือจากแนวคิดการพัฒนาเพื่อให้สวมสบายและมีความสวยงามตามยุคสมัยแล้ว นักออกแบบ Simona Brusa Pasque ออกแบบรองเท้า Electric Cinderella ด้วยวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างไปอย่างน่าทึ่ง โดยการรวมวงจรเครื่องช๊อตไฟฟ้า (Stun Gun) ไว้ที่ส้นรองเท้า สามารถสร้างกระแสไฟ 100,000 โวล์ตสำหรับการป้องกันตัวของผู้หญิง ควบคุมการเปิดปิดที่สร้อยคอ ผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ระดับมาสเตอร์ที่ Interaction Design Institute Ivrea อิตาลี

Instep Nanopower เดินผลิตพลังงาน

กิจกรรมทางร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างพลังงานได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison จึงนำแนวคิดการสร้างและเก็บพลังงานไฟฟ้าโดยการแปลงพลังงานกลจากการเดินหรือวิ่ง โดยพัฒนาพื้นรองเท้าที่มีของเหลวโมเลกุลเล็กที่สร้างพลังงานไฟฟ้ามากพอที่จะชาร์ตไฟโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งเป็นแหล่งจ่ายพลังงานให้แก่ระบบ WiFi ที่อยู่ในรองเท้า

Adidas Megalizer เลือกเพลงตามจังหวะก้าว

ต้นแบบรองเท้าของ Adidas ที่สามารถช่วยเลือกเพลงให้เหมาะสมกับจังหวะการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ เป็นการส่งข้อมูลจังหวะและแรงกดบนรองเท้าที่เกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมของผู้ส่วมใส่ ผ่านระบบไร้สายไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยมีซอฟต์แวร์วิเคราะห์และจับคู่เพลง และเล่นเพลงที่มีจังหวะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวขณะนั้น สินค้าต้นแบบถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ.2011 เพื่อส่งเสริมการขายคอลเลคชั่น MEGA ของ Adidas ไม่ได้มีการผลิตเพื่อจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน

Protocell ซ่อมแชมตัวเองได้

หากรองเท้าสร้างจากสิ่งมีชีวิต ที่สามารถซ่อมแซม สร้างใหม่ ปรับอุณหภูมิและความแข็งอ่อนได้ตามพฤติกรรมของเจ้าของเท้า จะช่วยแก้ปัญหาหลายด้าน ทั้งความพอดี ความสบาย การปกป้องเท้าและความคงทนได้ นักออกแบบ Shamees Aden สื่อสารแนวคิดนี้โดยการพิมพ์ต้นแบบด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ จากสารอินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ (biological material) แต่แนวคิดนี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีจึงจะเป็นจริง ถึงแม้ตัวอย่างหลายแนวทางจะยังไม่เป็นจริงในเวลาอันไกล แต่ก็สามารถสร้างความสนใจและจุดประกายความคิดที่จะพัฒนารองเท้าให้มีคุณลักษณะที่ดีขึ้นในอนาคต

 

ที่มา :

- www.geek.com K. Thor Jensen

- rehabstudio.com

- สถาบันพลาสติก

- Interaction Design Institute Ivrea

- Lechal.com