หน้าแรก / THTI Insight / องค์ความรู้ / สถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit ที่มีต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของสหราชอาณาจักร

สถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit ที่มีต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของสหราชอาณาจักร

กลับหน้าหลัก
19.02.2564 | จำนวนผู้เข้าชม 793

สถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit ที่มีต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของสหราชอาณาจักร

นักวิจัยจากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) ระบุว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit ส่งผลกระทบต่อบริษัทสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในสหราชอาณาจักรกว่าร้อยละ 60 

ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนของตลาดอันเนื่องมาจากประเด็น Brexit ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต นั่นคือ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ

Simona Iammarino และ Patrizia Casadei นักวิจัยของ LSE ได้เขียนไว้ในบล็อกบนเว็บไซต์ของ LSE ระบุว่า บริษัทต่าง ๆ เผชิญหน้ากับปัญหาต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนวัตถุดิบ ส่งผลทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและความต้องการสินค้าในประเทศลดลง

ซัพพลายเออร์รายใหญ่ระบุว่า คำสั่งซื้อจากสหราชอาณาจักรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่การลดของสหราชอาณาจักรลดลงน้อยกว่าสหภาพยุโรป (EU) และประเทศอื่น ๆ เนื่องจากอัตราภาษีและระยะเวลาในการส่งสินค้าที่ล่าช้า

บริษัทบางแห่งได้ชี้ให้เห็นว่ายอดค้าปลีกที่ลดลงเกิดขึ้นจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรลดลงและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แบรนด์และร้านค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการลง

ผู้ผลิตบางรายกล่าวว่า การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบากกว่าปกติ อันเนื่องจากปัญหาในด้านต่าง ๆ อาทิ การกักตุนวัตถุดิบ การขาดแคลนกระแสเงินสด การแข่งขันจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของกำลังแรงงานภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบจาก Brexit ต้องจ้างแรงงานที่มีทักษะในสหภาพยุโรปในสัดส่วนที่สูงขึ้นและลดสัดส่วนการจ้างแรงงานที่มีทักษะจากสหราชอาณาจักร

บริษัทหลายแห่งตัดสินใจเลื่อนแผนการลงทุนออกไปรวมถึงการลงทุนในโครงการด้านนวัตกรรม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสหภาพยุโรป บริษัทหลายแห่งสูญเสียการเชื่อมโยงกันในซัพพลายเชน อันเนื่องจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ได้ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เกิดการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเออร์เปลี่ยนจากสหราชอาณาจักรเป็นสหภาพยุโรป หรือการย้ายโรงงานและคลังสินค้าไปยังสหภาพยุโรป

ในขณะเดียวกันก็มีผู้ผลิตจำนวนหนึ่ง (ร้อยละ 4) ที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit จากการที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักรที่ต้องการจัดหาสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนสินค้า นอกจากนี้การฝึกอบรมพัฒนาทักษะการผลิตของแรงงานและการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในต่างประเทศเนื่องจากค่าเงินปอนด์ที่ลดลงก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ผลิตได้รับประโยชน์เช่นกัน

จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit แสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคและยอดขายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนของตลาด ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษทำให้ต้นทุนการนำเข้าและต้นทุนการจัดส่งสินค้าเพิ่มขึ้นส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของบริษัท

นอกจากนี้ปริมาณคำสั่งซื้อในสหราชอาณาจักรที่ลดลง ส่งผลต่อการวางแผนจัดส่งสินค้า การตัดสินใจซื้อสินค้า และความสามารถในการบริหารจัดการลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพในสหภาพยุโรปและจากต่างประเทศ รวมถึงการชะลอตัวของธุรกิจทั้งความสามารถในการทำกำไรและการลงทุน 

ที่มา : Fibre2Fashion: “Brexit uncertainty affects UK textile-apparel sector”, by Fibre2Fashion News Desk (DS), February 8, 2021

เรียบเรียงโดย : อิสเรศ วงศ์เสถียรโสภณ (ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)

กฎระเบียบสิ่งทอ,สิ่งทอ,เครื่องแต่งกาย,เครื่องนุ่งห่ม,Brexit,สหราชอาณาจักร,LSE