การรัฐประหารส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเมียนมา
เมียนมาเป็นประเทศที่ตลาดเครื่องนุ่งห่มมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงประเทศหนึ่ง เหตุการณ์รัฐประหารเป็นการซ้ำเติมให้การส่งออกลดลง ในปี 2563 การส่งออกเครื่องนุ่งห่มของเมียนมามีมูลค่า 4,621.31 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวลงร้อยละ 11.75 เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีมูลค่าการส่งออก 5,236.58 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเมียนมาเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นมีสัดส่วนในการส่งออกกว่าร้อยละ 30 ของการส่งออกของประเทศ นอกจากนี้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มยังเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจเมียนมา จึงเป็นเรื่องยากที่เมียนมาจะฟื้นตัวได้หากมีการยกเลิกคำสั่งซื้อและเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศปลายทางที่สำคัญ เช่น อเมริกาและสหภาพยุโรปที่เพิกถอนสิทธิประโยชน์ภายใต้ Generalized System of Preferences (GSP) และ Everything But Arm (EBA) ตามลำดับ
มีแรงงานมากกว่า 5 แสนคนที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและส่วนใหญ่เป็นแรงงานหญิง เมื่อไม่นานมานี้ประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 แต่การรัฐประหารเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่เพิ่งฟื้นตัว เนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่ออกมาประท้วงต้านรัฐประหาร
แบรนด์สินค้าชื่อดังระดับโลกจับตามองสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และเริ่มทบทวนคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานผลิตในเมียนมาใหม่ ความวุ่นวายทางการเมืองนี้อาจส่งผลกระทบต่อสถานะของเมียนมาในฐานะแหล่งจัดหาเครื่องนุ่งห่มชั้นนำ
การรัฐประหารครั้งนี้ส่งผลให้การส่งออกเครื่องนุ่งห่มของเมียนมามีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะโรงงานเครื่องนุ่งห่มบางแห่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมที่ถูกทหารควบคุม ส่งผลให้การส่งออกเครื่องนุ่งห่มในปี 2563 มีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 385.11 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวลงร้อยละ 11.75 เมื่อเทียบกับปี 2562 มีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 436.38 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มในปี 2564 จะมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 327.34 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวลงร้อยละ 15.00
ที่มา : Fibre2Fashion: “Military coup to further affect Myanmar's apparel industry”, by Fibre2Fashion News Desk (JL), February 22, 2021
เรียบเรียงโดย : อิสเรศ วงศ์เสถียรโสภณ (ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)