อุตสาหกรรมแฟชั่นล้างปฏิทินใหม่ รับมือวิกฤติโคโรนาไวรัส

กลับหน้าหลัก

อุตสาหกรรมแฟชั่นล้างปฏิทินใหม่ รับมือวิกฤติโคโรนาไวรัส

บริษัทสินค้าแฟชั่นชั้นนำตั้งแต่ Armani ไปจนถึง Gucci ต่างลดการจัดรายการแฟชั่นโชว์และเปิดตัวเสื้อผ้าแนวใหม่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากวิกฤตด้านสุขภาพโคโรนาไวรัส ซึ่งบีบให้อุตสาหกรรมแฟชั่นต้องคิดหาแนวทางใหม่ที่จะดำเนินธุรกิจต่อไป

นักออกแบบแฟชั่นระดับสูงต้องลดจำนวนคอลเลคชั่นของตนที่แสดงโชว์ในสัปดาห์แฟชั่นตลอดทั้งปี ทั้งในกรุงลอนดอน กรุงปารีส เมืองมิลาน และนครนิวยอร์ก

เป็นเวลานานกว่าสองเดือนมาแล้วที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกประกาศนโยบายกักตัวเองที่บ้านเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส ตั้งแต่นั้นมา ร้านค้าจำนวนมากต้องปิดดำเนินการ และบริษัทเสื้อผ้าแฟชั่นได้หยุดงานที่โรงงานผลิตของตนลงชั่วคราว

Bain & Company บริษัทบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ประเมินว่า อุตสาหกรรมสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยมูลค่า 310,000 ล้านดอลลาร์จะมียอดขายลดลงสูงสุดถึง 35% ในปีนี้

ร้านค้าแฟชั่นต่างประสบกับปัญหากับสินค้าที่ขายไม่ออกจำนวนมาก และการลดราคาสินค้าคุณภาพสูงก็อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และผลกำไรของทางร้านด้วย

Michael Kors ดีไซเนอร์รายล่าสุดที่เรียกร้องให้วงการแฟชั่นลดการผลิต และได้ถอนตัวออกจากงานแฟชั่นโชว์ของนิวยอร์กในเดือนกันยายน กล่าวว่า เขาจะออกแบบเสื้อผ้าเพียงปีละสองคอลเลคชั่น คอลเลคชั่นแรกสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน และคอลเลคชั่นที่สองสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีคอลเลคชั่นรีสอร์ตและคอลเลคชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะเป็นเสื้อผ้าสำหรับเทศกาลวันหยุด และสำหรับเดินทางต่างประเทศ

บรรดานักวิจารณ์กล่าวถึงคอลเลคชั่นนี้ว่า ไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้

Robert Burke ผู้ก่อตั้งบริษัท Robert Burke Associates บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การที่มีคอลเลคชั่นเสื้อผ้าน้อยลงนั้น ทำให้ผู้คนเลิกใช้เสื้อผ้าแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

อย่างไรก็ดี การถกปัญหาในเรื่องของของอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้นมีมาก่อนที่จะเกิดโคโรนาไวรัสแล้ว แต่วิกฤตสุขภาพเป็นแรงกดดันให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร่งด่วน บริษัทต่าง ๆ ลดราคาสินค้าลง และขายสินค้าโดยที่ไม่ให้ขาดทุนมากจนเกินไป

ส่วน Armani กล่าวว่า ธุรกิจแฟชั่นหรูหราฟุ่มเฟือยควรหยุดเปลี่ยนคอลเลคชั่นอย่างรวดเร็วตามฤดูกาล เพราะการที่เสื้อแจ็คเก็ตหรือเสื้อสูทจะวางขายอยู่ในร้านเป็นเวลาเพียงสามสัปดาห์ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยสินค้าใหม่ที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมาก เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลย

ดีไซเนอร์ Alessandro Michele ผู้ที่ทำให้ Gucci ทำกำไรได้อย่างสูง กล่าวว่า เขาจะตัดการแสดงโชว์ประจำปีของบริษัทจากห้ารายการเหลือเพียงสองรายการ และในการนำเสนอผลกำไรช่วงปลายเดือนพฤษภาคม Ralph Lauren กล่าวว่า จะผลิตสินค้าตามฤดูกาลน้อยลง และเพิ่มการผลิตเสื้อผ้าที่สามารถใช้ได้งานรอบด้าน คุณ Jane Nielsen หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Lauren กล่าวว่า คอลเลคชั่นฤดูร้อนจะวางขายในร้านไปจนถึงเดือนสิงหาคม

บริษัทต่าง ๆ อย่าง Gucci และ Dior ต่างใช้คอลเลคชั่นสินค้าราคาแพงเพื่อดึงดูดผู้ซื้อที่ร่ำรวย โดยเฉพาะในประเทศจีน แต่การที่การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากวิกฤตโคโรนาไวรัส ทำให้คนในวงการแฟชั่นบางคนกล่าวว่า การใช้งบโฆษณาจำนวนมากเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น งานแฟชั่นโชว์แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 1 ล้านดอลล่าร์

นอกจากนี้การจัดแฟชั่นโชว์และลดการผลิตให้น้อยลง ยังชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างบริษัทแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในสหรัฐ ที่เจ้าของร้านเคยเป็นผู้ควบคุมเวลาในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดูสดใหม่อยู่เสมอมาเป็นเวลานานแล้ว

Ron Frasch อดีตผู้บริหาร Saks Fifth Avenue กล่าวว่า วิกฤตสุขภาพทำให้เกิดการล่มสลายของห้าง Neiman Marcus และร้านค้าชั้นนำอื่น ๆ ในสหรัฐ และตอนนี้มีการนำเอาวิธีการทำธุรกิจแบบเก่า ๆ มาใช้กันเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักออกแบบแฟชั่นบางคนที่คัดค้านการลดปฏิทินแฟชั่น อย่างเช่น Chanel ซึ่งเพิ่มราคาสินค้าของตนในเดือนพฤษภาคม กล่าวว่า จะยังคงผลิตสินค้าปีละ 6 คอลเล็คชั่นเหมือนเดิม

ที่มา : https://www.voathai.com/a/fashion-industry-under-covid19/5477627.html