มณฑลฝูเจี้ยนติดตามกฏระเบียบใหม่สำหรับสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอของยุโรปและอเมริกาอย่างเคร่งครัด

กลับหน้าหลัก

มณฑลฝูเจี้ยนติดตามกฏระเบียบใหม่สำหรับสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอของยุโรปและอเมริกาอย่างเคร่งครัด

สำนักงานควบคุมตรวจสอบและกักกันโรคสินค้าแห่งมณฑลฝูเจี้ยน (CIQ) ได้เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปและอเมริกาได้ออกกฏระเบียบใหม่สำหรับสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอ โดยได้กำหนดปริมาณของสารโนนิลฟีนอลอีทอกซิเลท (ต่อไปนี้จะเรียกย่อว่าสาร NPE) และอัพเดทรายการวัสดุที่ห้ามใช้กับสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการด้านสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอของมณฑลฝูเจี้ยนควรติดตามกฏระเบียบ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

กฏระเบียบเลขที่ 26 ปี 2559 ของสหภาพยุโรปได้กำหนดปริมาณสาร NPE ที่ใช้ในสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอให้ไม่เกินร้อยละ 0.01 (100 ppm) โดยกฏระเบียบฉบับนี้มีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 5 ปี เมื่อครบ 5 ปีแล้ว สินค้าที่ไม่ตรงกับมาตรฐานจะถูกห้ามจำหน่ายหรือนำเข้ามายังตลาดสหภาพยุโรป

สาร NPE เป็นสารที่ใช้ในขั้นตอนการผลิตของสิ่งทอ เช่น ใช้ทำความสะอาดย้อมสีและซักสิ่งทอเป็นสารฟอกล้างและสารช่วยย้อมสีที่ใช้บ่อยที่สุดในธุรกิจเสื้อผ้าและสิ่งทอ ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็นร้อยละ 80 ในตลาดของจีน

ขณะเดียวกัน สมาคมเสื้อผ้าสิ่งทอและรองเท้าของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายการวัสดุที่ต้องห้ามใช้ในการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอครั้งที่ 17 (RSL) โดยได้ประกาศรายการ 12 หมวด (รวมทั้งวัสดุกว่า 250 ประเภท) ที่ห้ามหรือมีข้อจำกัดในการใช้กับเสื้อผ้ารองเท้าและสิ่งทอ ทั้งนี้ การที่ได้เพิ่มรายการ "วิธีการทดสอบฟอร์มาลดีไฮด์" ในเครื่องหนังจะมีผลกระทบต่อการส่งออกรองเท้าหนังเสื้อหนังของมณฑลฝูเจี้ยน โดยเสื้อผ้าและสิ่งทอเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของมณฑลฝูเจี้ยน เน้นส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรปและ สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานควบคุมตรวจสอบและกักกันโรคสินค้าแห่งมณฑลฝูเจี้ยนได้ระบุว่า กฏระเบียบดังกล่าวจะมีผลกระทบที่รุนแรงต่อธุรกิจสิ่งทอและเสื้อผ้าของมณฑลฝูเจี้ยน ดังนั้น ทาง CIQ จะติดตามความเคลื่อนไหวของกฏระเบียบดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้คำเสนอแนะแก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการควรทดสอบและควบคุมปริมาณของสาร NPE ให้ไม่เกินมาตรฐาน พร้อมควบคุมคุณภาพสินค้าอย่างเคร่งครัด ควรปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิตและควรปรับปรุงวิธีการทดสอบสินค้า เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจถูกเรียกคืนสินค้าจากประเทศดังกล่าว

ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน