หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / FN Outlet ขยับอีกรอบ สปีดไซซ์ใหญ่-เติมแม็กเนตร้านค้า

FN Outlet ขยับอีกรอบ สปีดไซซ์ใหญ่-เติมแม็กเนตร้านค้า

กลับหน้าหลัก
04.04.2561 | จำนวนผู้เข้าชม 1836

แม้ว่า "เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท" จะหยุดพักการขยายสาขาใหม่เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว แต่การดำเนินการภายในไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพื่อตอบรับกับโอกาสทางธุรกิจที่ยังเปิดกว้าง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจึงเกิดเป็นแผนการเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลักดันให้การทำงานทุกส่วนมีระบบที่ชัดเจน มีความเป็นมืออาชีพ รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน และการลงทุนในอนาคต

"เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) ฉายภาพถึงโอกาสที่เกิดขึ้นว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของสังคมเมือง การเปิดเออีซี ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ตลอดจนการเกิดขึ้นของอีคอมเมิร์ซที่จะทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ด้านของร้านค้าปลีกแบบเอ๊าท์เลทยังได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคัก เพราะรัฐบาลเองก็ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเทศกาลตามประเพณีไทยที่เกิดขึ้นทุก ๆ ไตรมาส ล้วนส่งผลให้คนเดินทางท่องเที่ยว ใช้เงินเพื่อจับจ่ายสินค้าและบริการ ที่ผ่านมา เอ๊าท์เลทของบริษัทจึงได้เข้าไปขยายในทำเลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หัวหิน ปากช่อง กาญจนบุรี สิงห์บุรี ฯลฯ รวมทั้งหมด 7 สาขา ซึ่งล้วนแต่อยู่ในโลเกชั่นที่มีทราฟฟิกการเดินทางจำนวนมาก

 

เนื่องจากไม่มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นเวลาถึง 4 ปี ทำให้ยอดขายในช่วงที่ผ่านมาเติบโต-ลดลงเล็กน้อย สอดคล้องไปกับสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ หรือจีดีพีของประเทศ โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 525 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 555 ล้านบาทจากบรรยากาศการจับจ่ายที่ยังไม่ปรับตัวดีขึ้นนัก

"ธรรมชาติของธุรกิจ หลังจากเปิดสาขาใหม่จะใช้เวลา 2-3 ปีก็อยู่ใน Mature State คือโตตามภาวะเศรษฐกิจภาพรวม หากเราต้องการที่จะโตต่อไปจะต้องมาจากการขยายสาขาใหม่เป็นหลัก ซึ่งปลายเดือนนี้ก็จะเปิดสาขาที่ 8 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และช่วง 1-2 ปีข้างหน้า มีแผนที่จะเปิดอีกปีละ 1- 2 สาขา ขยายความครอบคลุมไปยังภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้"

"เบญจ์เยี่ยม" เปิดเผยว่า สาขาที่อยุธยาจะเป็นการทำโมเดลใหม่ เพิ่มบริการพื้นที่เช่าเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การมาช็อปปิ้งของผู้บริโภคให้ครบ และเป็นแม็กเนตในการเข้ามาใช้บริการ เช่น ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ และร้านอาหารอีก 3 - 4 ร้าน โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่เช่าประมาณ 1,000 ตร.ม. ทำให้กลุยทธ์การขยายตัวจากนี้จะเน้นไปที่ร้านไซซ์ใหญ่มากขึ้น คือมีพื้นที่ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 5,000 ตร.ม. เพื่อให้มีสินค้าที่ครบครัน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งครอบครัว ผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก เพื่อเสริมรายได้จากเดิมที่จะมาจากธุรกิจขายสินค้าในเอ๊าท์เลทเป็นหลัก

สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ขยายสาขาสาขาละ 120 ล้านบาท รวมถึงการปรับปรุงเพิ่มพื้นที่เช่าใน 7 สาขา สาขาละ 7 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยทำให้เสร็จภายในปี 2562 จะมาจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

ในขณะที่ด้านของการแข่งขัน "เบญจ์เยี่ยม" ยังมองว่าตลาดนี้ยังไม่มีคู่แข่งทางตรง คือ บริษัทที่มีทั้งช่องทางและแบรนด์เป็นของตัวเองในลักษณะดังกล่าวเหมือนกับเอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท ซึ่งมีรายได้จากเฮาส์แบรนด์สูงถึง 65% แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ถือเป็นคู่แข่งทางอ้อม เช่น พรีเมี่ยมเอาท์เลท ที่มีที่มาของรายได้ต่างกันคือ ไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าเอง และให้เช่าพื้นที่แต่แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ตลอดจนด้านของห้างสรรพสินค้า และไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่เน้นการให้เช่าพื้นที่และเน้นกลุ่มลูกค้าแตกต่างกันไป

ส่วนบรรยากาศการจับจ่ายปลายปี "ปรีชา ส่งวัฒนา" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่ จะส่งผลให้การเติบโตของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากรายได้ที่จะเพิ่มเข้ามาแล้ว การเปิดสาขาใหม่ยังทำให้การบริหารจัดการต้นทุนสินค้าทำได้ดีขึ้น เกิดการประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) ลดสัดส่วนของสินค้าคงเหลือที่มีสต๊อกอยู่ จากจำนวนขั้นต่ำที่บริษัทต้องทำการออร์เดอร์เพื่อจ้างผลิต (OEM) จากโรงงานต่าง ๆ ได้

สำหรับผลการดำเนินงานของเอฟเอ็น แฟคตอรี่ฯ ในปีที่ผ่านมา มีรายได้ 1,102 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ 13.06%

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ www.facebook.com/PrachachatOnline
 

fn outlet textile&clothing ภาวะสิ่งทอ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม