หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / 'พระพันปี'ทรงงามสง่า ในฉลองพระองค์ชุดไทย

'พระพันปี'ทรงงามสง่า ในฉลองพระองค์ชุดไทย

กลับหน้าหลัก
13.08.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 5344

'พระพันปี'ทรงงามสง่า ในฉลองพระองค์ชุดไทย

ความงดงามที่ไม่เคยเลื่อนหายไปจากความทรงจำของปวงชนชาวไทย หากจะกล่าวว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนช่วงเวลา 20.00 น. ของทุก ๆ วัน เราจะได้ชื่นชมพระบารมี “แม่ของแผ่นดิน” ผ่านพระจริยวัตรอันอ่อนช้อย รวมถึงฉลองพระองค์ชุดไทยที่งดงามอย่างยิ่ง คงไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะในสมัยนั้นทุกบ้านจะเปิดโทรทัศน์ชื่นชมพระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


ดังเช่นข้อความตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ เรื่อง “แม่” ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าถึงความรู้สึกที่มีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ความว่า “ท่านมีตำแหน่งเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งหมายความว่า ท่านเป็นแม่ของคนทั้งชาติ แล้วก็เป็นแม่ส่วนตัวของข้าพเจ้าด้วย

เฉกเช่นเดียวกับแนวพระราชดำริเนื่องในวัน “วันสตรีไทย” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานหน้าที่สำคัญเบื้องต้นของสตรีไทย 4 ประการ ได้แก่ ประการที่ 1 พึงทำหน้าที่ของแม่ให้สมบูรณ์ ประการที่ 2 พึงทำหน้าที่ของแม่บ้านให้ดี ประการที่ 3 พึงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย และประการที่ 4 พึงฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น ซึ่งจะตรงกับวันที่ 1 ส.ค. ของทุกปีเป็น


เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 12 ส.ค. 2562 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีพระวิริยะอุตสาหะตรากตรำบำเบ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงได้รวบรวมฉลองพระองค์ชุดไทยและผ้าไหมไทย ที่ถักทออย่างวิจิตรบรรจงปราณีต ทำให้กลายเป็นที่รู้จักสู่เวทีโลก


1.ฉลองพระองค์ชุดไทยแบบผสมผสาน (จากหนังสือราชศิลป์พัสตราภรณ์ / In Royal Fashion)

ทรงฉลองพระองค์ในงาน 200 ปีแห่งสายสัมพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ณ พระราชวังบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 21 ต.ค. 2525 ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแต่งกายแบบไทย ที่พระองค์ทรงนำการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยในอดีต อันได้แก่ การห่มสไบและการนุ่งโจงกระเบน มาผสมผสานกับการตัดเย็บ เพื่อให้เกิดฉลองพระองค์อันงดงาม พร้อมแถบผ้าปักประดับสองชิ้นทางด้านหน้าที่คล้ายคลึงกับเครื่องแต่งกายในพิธีโสกันต์ หรือโกนจุก


2.ฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต (จากIn Royal Fashion)

วันที่ 3มิ.ย. 2506 ทรงในงานพระราชทานพระกระยาหารค่ำ ถวายสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งประเทศญี่ปุ่น ระหว่างการเสด็จฯ เยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และวันที่ 7 มิ.ย. 2506 ทรงในงานพระราชทาน เลี้ยงพระกระยาหารค่ำแก่นายเจียง ไค เชค ประธานาธิบดีไต้หวันและภริยา ระหว่างการเสด็จฯ เยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ ด้วยฉลองพระองค์สีครีมปักประดับด้วยลูกปัดและเลื่อม พระภูษายกทองสีส้มลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต ตั้งชื่อตาม “พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท” ตัวเสื้อไม่มีแขน คอเสื้อคว้านกว้างหน้า-หลัง ไม่ใช้สไบแต่ใช้เข็มขัด มีหน้านางและชายพก ทำจากผ้าไหม เพชรเทียม โลหะและพลาสติก ด้วยเทคนิคผ้ายกและการปัก


3.ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ ประดับด้วยดิ้นทองและทับทิม

วันที่ 3 ก.ค. 2524 ทรงในงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ นาย เชิน ดู ฮวาน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและภริยา ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ ตั้งชื่อตาม “พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานในพระบรมมหาราชวัง” ใช้ในงานพิธีเต็มยศกลางคืน ท่อนบนห่มผ้าสองชั้น ชั้นในมักเป็นสไบจีบ และห่มสะพักทับ ผ้านุ่งยกทองจีบแบบเดียวกัน คาดเข็มขัดและชุดติดกัน ท่อนบนเป็นสไบ ผ้านุ่งจีบ คาดเข็มขัดและใส่เครื่องประดับเข้าชุดกัน วัสดุทำจากผ้าไหม เพชรเทียม โลหะและพลาสติก ด้วยเทคนิคผ้าพื้นและการปัก ประดับตกแต่งเพชรเทียมและลูกปัด


4.ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี (จากประมวลพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2489-2510 เล่ม 4”, “In Royal Fashion)

ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 4 ต.ค. 2512 งานพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแก่เจ้าฟ้าหญิงมากาเร็ต และพระสวามี ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง และวันที่ 12 ก.พ. 2515 ทรงในงานถวายพระกระยาหารค่ำ ซึ่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และยุคแห่งเอดินเบอระทรงจัดถวายบนเรือพระที่นั่งบริแทนเนีย ณ ท่าเทียบเรือ โรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ โดยฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี ตั้งตามชื่อ “พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท” ใช้ในงานพิธีกลางคืน ท่อนบนเปิดไหล่หนึ่งด้าน เป็นสไบสำเร็จซึ่งมีทั้งสไบปักหรือไม่ปักก็ได้ ตัดเย็บติดกับท่อนล่างซึ่งเป็นผ้านุ่งจีบ เป็นผ้าไหมยกทองทั้งตัวหรือยกเฉพาะเชิงก็ได้ 


5.ฉลองพระองค์ชุดราตรียาว ตัดด้วยผ้าไหมมัดหมี่ลายกอตะไคร้

วันที่ 12 มี.ค. 2524 พระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดราตรียาวตัดด้วยผ้าไหมมัดหมี่ลายกอตะไคร้ ตกแต่งบริเวณปลายแขนด้วยขนนก โดย มร.ปิแอร์ บัลแมง ผู้ออกแบบ ในงานถวายพระกระยาหารค่ำ ซึ่งประธานสมาคมญี่ปุ่น-ไทยจัดถวาย ณ สโมสรสึนามาชิ มิตซุย ในการเสด็จฯ เยือนญี่ปุ่นเป็นการส่วนพระองค์ ครั้งนี้พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการแสดงแบบเสื้อจากผ้าไหมมัดหมี่ พร้อมทั้งนำผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพไปจัดแสดง เพื่อเป็นการเผยแพร่งานฝีมือของคนไทยแก่ชาวญี่ปุ่น


6.ฉลองพระองค์ชุดผ้าไหมมัดหมี่

ฉลองพระองค์องค์นี้ ใช้เทคนิคมัดหมี่และการปักบนผ้าไหม ทรงในโอกาสเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแสดงแบบเสื้อจากผ้าไหมศิลปาชีพโดยห้องเสื้อบัลแมง ณ เรือโอเรียลเต็ลควีนวันที่ 10ต.ค. 2528


7.ฉลองพระองค์ชุดผ้าแพรวา

เมื่อครั้งที่พระองค์ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ในปี 2520 ได้ทอดพระเนตรเห็น นางคำใหม่ โยคะสิงห์ (แม่คำใหม่) ในวัย 43 ปี ที่นำชาวผู้ไทบ้านโพน แต่งชุดพื้นเมือง ห่มสไบเฉียงสีแดงครั่ง นั่งเฝ้ารอรับเสร็จฯ ทรงสนพระราชหฤทัยในผ้าแพรวา และได้ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับแม่คำใหม่เกี่ยวกับผ้าแพรวา จึงโปรดฯ ให้นำเส้นไหมพระราชทานมอบให้แม่คำใหม่และชาวบ้านโพนนำไปทอผ้าแพรวาถวาย โดยจัดให้มีการอบรมพัฒนาการทอผ้าแพรวา และรับงานทอผ้าแพรวาของชาวผู้ไท เข้าไว้ในมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ โดยมีแม่คำใหม่ โยคะสิงค์ เป็นหัวหน้ากลุ่มทอผ้าแพรวา ฝึกสอนการฟอกย้อมไหมแก่สมาชิกในกลุ่มฯ


อย่างไรก็ตาม เคยมีคนถามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่า ในการเสด็จฯ ไปไหน เหตุใดต้องทรงแต่งพระองค์งาม แล้วยังโปรดฯ ให้ข้าราชบริพารแต่งตัวสวย ๆ ด้วย รับสั่งตอบว่า


“อันนี้จริง ฉันเป็นคนที่แก้ไม่หาย พระท่านบอกว่า ยังติดอยู่กับความสวยความงาม แต่ว่าความจริงแล้วเป็นอย่างนั้น ชอบสวยงาม แล้วอีกประการหนึ่ง ชาวบ้านนี่นาน ๆ เขาจะเห็นเราสักทีหนึ่ง โดยมากชั่วชีวิตเขาก็เห็นไม่กี่ครั้ง เลยคิดว่าพยายามแต่งตัวให้ดี ให้เขาเห็น ให้เขาจำ ความจริงถึงแต่งตัวดีมากไปได้ประเดี๋ยวมันก็มอม เพราะคลุกฝุ่น โดยมากพยายามใส่ชุดชาวเขาไปหาชาวเขา พอเขาเห็น เขาบอกว่า เอ๊ะ สวยนี่ สวย แล้วเขาก็ตั้งใจทำคือชาวเขานึกว่า ผ้าปักของเขานี่ไม่มีคุณค่าอะไร ไปทำอะไรก็ไม่ได้เท่าไหร่ จึงมักจะเอามาใช้กับเพ้นท์สูท (ชุดกางเกง) แล้วใส่เครื่องเงินที่เขาให้อย่างนี้...”


ขอบคุณภาพ : พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


ที่มา : https://www.dailynews.co.th/article/724951

ข่าวรายวัน,สิ่งทอ,'พระพันปี',ฉลองพระองค์,ชุดไทย