นักวิจัยผุดไอเดีย ผสาน “โปรไบโอติก” บนเสื้อผ้า ช่วยรักษาสมดุลผิวและลดกลิ่นกาย

กลับหน้าหลัก

นักวิจัยผุดไอเดีย ผสาน “โปรไบโอติก” บนเสื้อผ้า ช่วยรักษาสมดุลผิวและลดกลิ่นกาย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหงื่อหรือกลิ่นอับเวลาสวมใส่เสื้อผ้านอกจากอากาศที่ร้อนระอุแล้ว เนื้อผ้าเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หลายครั้งแม้แดดจะไม่ได้ร้อนมาก แต่หากสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดีก็อาจจะยิ่งเป็นการกระตุ้นเหงื่อให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หรือบางคนที่มีอาการขี้ร้อนมาก ๆ ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าที่บางเบาแค่ไหน ก็ไม่วายมีเหงื่อออกเยอะอยู่ดี ซึ่งปริมาณเหงื่ออาจจะสร้างความกังวลเกี่ยวกับกลิ่นตัว หรือความสะอาดจำพวกแบคทีเรียทั้งหลายแก่ผู้สวมใส่ได้

จากปัญหาที่ว่ามาทำให้ ดร.คริส คาลลิเวิร์ต นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเกนต์ และ โรซี่ บรอดเฮด นักวิจัยและนักออกแบบร่วมมือกันคิดค้นชุดบอดี้สูทที่มีชื่อว่า “skin II” โดยจุดเด่นของเจ้าบอดี้สูทตัวนี้ คือการดึงแบคทีเรียโปรไบโอติกผสมผสานลงบนเนื้อผ้า

แนวคิดนี้เกิดจากการที่ทีมนักวิจัยต้องการดึงวิทยาการทางธรรมชาติทดแทนการใช้งานจากสารเคมีให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าในยุคนี้เสียส่วนใหญ่ ซึ่งนอกจากการให้ความสำคัญเรื่องของธรรมชาติแล้ว การใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากชุดนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทางทีมมองว่า ต้องให้ผู้บริโภคใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

ดร.คาลลิเวิร์ตเล่าว่า การวิจัยครั้งนี้เริ่มจากการพิจารณาลักษณะผิวหนังของมนุษย์ก่อน จากนั้นจึงไปดูว่าบนผิวของมนุษย์มีแบคทีเรียอะไรบ้าง ซึ่งพบว่า มีมากกว่าล้านชนิด การเลือกใช้โปรไบโอติกแทนสารเคมีในการผลิตเสื้อผ้าจึงถือเป็นการรักษาสมดุลของผิวมากกว่า เพราะส่วนประกอบในสารเคมีบางชนิดอาจมีอันตรายต่อผิว รวมถึงเมื่อสารเหล่านี้ไปเจอกับเหงื่อจึงทำให้เกิดปฏิกริยาจนเป็นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ตรงกันข้ามกับการใช้โปรไบโอติกที่เมื่อไปเจอกับแบคทีเรียจากเหงื่อ นอกจากจะช่วยรักษาสมดุลของผิวแล้ว ยังสามารถลดกลิ่นกายที่หลาย ๆ คนกังวลได้ด้วย

“นอกจากลดกลิ่นกายแล้ว แบคทีเรียโปรไบโอติกยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของผิว รวมถึงยังไม่ต้องซักบ่อย ๆ ด้วย โดยรวมแล้วไอเดียนี้จึงเป็นการเสนอให้ใช้สิ่งมีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา เพื่อสร้างเสื้อผ้าที่ช่วยรักษาและปรับปรุงผิวของเราไปในขณะเดียวกัน” โรซี่ บรอนเฮดอธิบายปิดท้าย

ที่มา : https://www.prachachat.net/spinoff/science-technology/news-351935