เวียดนามจับมือยุโรป ลงนามค้าเสรีครั้งสำคัญ

เวียดนามจับมือยุโรป ลงนามค้าเสรีครั้งสำคัญ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ได้ลงนามการค้าเสรีครั้งสำคัญกับประเทศเวียดนาม โดยระบุว่าเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เคยลงนามกับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งใช้เวลาการเจรจามานานกว่า 3 ปี 6 เดือน

รายละเอียดของข้อตกลง จะยกเลิกการตั้งกำแพงภาษี 99 เปอร์เซ็นต์ ที่มีต่อสินค้าประเภทต่างๆจากเวียดนาม แต่จะมีสินค้าบางประเภทที่จะทยอยลดกำแพงภาษีในกรอบระยะเวลา 10 ปี เช่นเดียวกับสินค้าด้านการเกษตรที่จะมีการกำหนดยกเว้นภาษีเป็นแบบโควตา

การลงนามข้อตกลงการค้าเสรี มีขึ้นที่กรุงฮานอย ระหว่างนางซิซีเลีย มาล์มสตรอม ตัวแทนคณะกรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรปกับนายจัง ตวน อัน รมว.อุตสาหกรรมและการค้า อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงฉบับนี้จะต้องได้รับการรับรองจากสภายุโรป ซึ่งมีกระแสทักท้วงจากสมาชิกสภายุโรปบางส่วน ที่แสดงความกังวลต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม

ต่อมาทางการเวียดนามเผยว่า ข้อตกลงการค้าเสรี อียู-เวียดนาม หรืออีวีเอฟทีเอ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการส่งออกของยุโรปมายังเวียดนาม 15.28 เปอร์เซ็นต์ และจะกระตุ้นจากส่งออกสินค้าเวียดนามไปยุโรป 20 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2563 ทั้งจะยังเพิ่มมวลรวมผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ หรือจีดีพี 2.18 ถึง 3.25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ภายในปี 2566 และเพิ่มเป็น 4.57 ถึง 5.3 เปอร์เซ็นต์ ภายในช่วงปี 2564-2571

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปถือเป็นตลาดส่งออกสำหรับเวียดนาม มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯอเมริกา โดยมีสินค้าส่งออกหลักคือสิ่งทอและรองเท้า ซึ่งข้อตกลงอีวีเอฟทีเอ อาจเป็นการเปิดทางเพิ่มเติมให้ธุรกิจด้านไปรษณีย์ ธนาคาร และด้านสินค้าทางทะเลของเวียดนามก่อนหน้านี้ เมื่อ 28 มิ.ย. สหภาพยุโรปยังลงนามข้อตกลงการค้ากับกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ ประกอบด้วย อาร์เจนตินา บราซิล อุรุกวัย และปารากวัย เพื่อลดหรือยกเลิกกำแพงภาษี กระตุ้นการส่งออก และทำให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลง โดยสหภาพยุโรประบุว่าเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่ใช้เวลาเจรจามานานถึง 20 ปี.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1603873