หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / “อัญมณีไทย” โอกาสและความเสี่ยง

“อัญมณีไทย” โอกาสและความเสี่ยง

กลับหน้าหลัก
10.06.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 879

“อัญมณีไทย” โอกาสและความเสี่ยง

กลุ่มสินค้าสวยงามอย่างอัญมณีและเครื่องประดับของไทยจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกาไปด้วยหรือไม่

ที่ผ่านมาหลายกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา จนทำให้หลายสำนักต่างออกมาปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้เนื่องจากผลกระทบดังกล่าวรุนแรงมากขึ้น แต่กลุ่มสินค้าสวยงามอย่างอัญมณีและเครื่องประดับของไทยจะได้รับผลกระทบนี้ไปด้วยหรือไม่


ผลกระทบจากการสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงกันมาตั้งแต่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี การท่องเที่ยว จนถึงการส่งออกอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอีกหนึ่งกลุ่มที่หนีไม่พ้น คือ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มีมูลค่าการส่งออกเฉพาะเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 ไม่รวมทองคำอยู่ที่ 43,701 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 4%


สงครามการค้าในแง่มุมหนึ่งอาจเป็นผลดีกับประเทศไทย เนื่องตลาดคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 30% อาจหันมาซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น แต่อีกนัยยะหนึ่งประเทศคู่ค้าอย่างจีน ที่นำเข้าวัตถุดิบจำนวนมากจากไทย แต่ไม่สามารถส่งสินค้าเข้าสหรัฐได้ก็อาจลดกำลังสั่งซื้อเช่นกัน รวมถึงกฎข้อบังคับใหม่ๆ ที่จะบีบให้กับผู้ประกอบการต้องปรับตัว จึงเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน


เมื่อกำลังซื้อทั่วโลกมีอยู่จำกัด กลุ่มชนชั้นกลางและล่างก็จะลดการใช้จ่าย แต่กลุ่มคนระดับบนที่มีกำลังซื้อ ยังทำการซื้อขายอยู่ปกติ โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก มีการนำเข้าอัญมณีจากไทยไปปรับรูปแบบ ใส่แบรนด์ของตัวเอง แล้วนำกลับมาขายใหม่ ทำให้สินค้าจำพวกพลอยเนื้อแข็ง ทับทิม ไพลิน พลอยสี พลอยเม็ดเจียรนัย ยังเป็นที่ต้องการตลาด แต่ด้วยตลาดระดับบนก็ย่อมมีข้อบังคับต่างๆที่มากขึ้น ทำให้ทางรอดของผู้ประกอบการไทยจึงต้องศึกษามาตรการใหม่ๆ หาตลาดของตนเองให้เจอ และต้องปรับตัว เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มีมาตรฐานรองรับ ฉะนั้นท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ คาดว่าภาพรวมตลาดทั้งปี น่าจะเติบโตได้ที่ราว 3% หรือกรณีสงครามการค้ายังไม่คลี่คลาย ถ้าการส่งออกไม่ติดลบก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าพอใจแล้ว


สอดคล้องกับ ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี ที่ยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความน่าเป็นห่วง การซื้อขายสินค้าก็เกิดภาวะชะงักงัน เนื่องจากไทยต้องพึ่งพากำลังซื้อจากต่างประเทศ แต่มองว่าภาวะปัจจัยรุมเร้าน่าจะไปสิ้นสุดในช่วงปลายปีนี้ เมื่อใดที่สงครามการค้าคลี่คลายลงตลาดก็น่าจะกลับมาได้ เพราะประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตเครื่องประดับและอัญมณีในระดับแถวหน้าของโลก


แต่สิ่งที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน คือการนำเข้าวัตถุดิบเข้ามาผลิตทำได้ยากขึ้น ฉะนั้นการนำมาผลิตเพื่อส่งออกจึงทำได้ลดน้อยลง สิ่งสำคัญคือการหมุนเวียนเงินสด ผู้ประกอบการจึงมองว่าภาครัฐจึงควรสนับสนุนเม็ดเงินลงทุนดอกเบี้ยต่ำ มาตรการด้านการเงิน เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มโอกาสแก่ผู้ประกอบการในการต่อยอดธุรกิจ และการขยายตลาดใหม่ๆ เพราะปัจจุบันฐานการส่งออกของไทยยังจำกัดอยู่ที่ฮ่องกงและจีนเป็นหลัก ลูกค้าในยุโรปก็ลดน้อยถดถอยลง


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/104488

ข่าวรายวัน,อัญมณี,เครื่องประดับ,สงครามการค้า,จีน-สหรัฐอเมริกา