หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / SACICT นำภูมิปัญญาผ้าทอ พัฒนาสู่แบรนด์แฟชั่น

SACICT นำภูมิปัญญาผ้าทอ พัฒนาสู่แบรนด์แฟชั่น

กลับหน้าหลัก
13.05.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 1316

SACICT นำภูมิปัญญาผ้าทอ พัฒนาสู่แบรนด์แฟชั่น

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เพิ่มมูลค่าผ้าทอฝีมือชาวบ้านและชุมชน ผ่านโครงการ “เส้นทางสายผ้าทอ Weaving Streets” ปีที่ 4 สร้างตัวตนคนทอผ้า นำภูมิปัญญามาพัฒนาสู่การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์แฟชั่นในชีวิตประจำวัน หรือ “Crafts Fashion Brand” พร้อมเปิดตัวและทดสอบตลาดในงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ 12” ซึ่ง SACICT จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2562 นี้

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า “เส้นทางสายผ้าทอ”เป็นการเพิ่มมูลค่าผ้าทอมือ ด้วยการนำผ้าทอมือของชาวบ้านและชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผ้าพื้นเมือง ผ้าจากชนเผ่าชาติพันธุ์ และผ้าในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมาจากภูมิปัญญาที่มีคุณค่าและความงดงามของงานหัตถศิลป์มาแปรรูปด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของใช้ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตปัจจุบัน


“นับเป็นความท้าทายของ 12 ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเดิมเป็นครูช่างศิลปหัตถกรรมและทายาทช่างศิลปหัตถกรรมของ SACICT สร้างสรรค์งานผ้าทอมือเพื่อจำหน่ายในรูปแบบผ้าผืน ผ้าซิ่น และผ้าเป็นชิ้นต่างๆ ถูกยกระดับและพัฒนาก้าวมาสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่จะต้องสร้างแบรนด์แฟชั่น ปัจจัยความสำเร็จที่มองเห็นคือ โอกาสทางการตลาดของงานแฟชั่นที่มาจากงานคราฟต์ เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจและกำลังอยู่ในกระแสความนิยมและสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน และจุดแข็งที่ถือเป็นจุดขายสำคัญของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้คือ ทุกคนมีตัวตนในภูมิปัญญาการทอผ้าอยู่แล้วมีความพร้อมในด้านแหล่งผลิตผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ นำมาสู่การแปรรูปเป็นสินค้าแฟชั่นของตนเองได้อย่างเข้มแข็ง โดย SACICT เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันให้ไปไกลระดับที่สามารถเป็นแบรนด์เสื้อผ้าเครื่องใช้ชั้นนำในอนาคต”

ด้าน ผศ.ดร.อโนทัย ชลชาติภิญโญ ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและการออกแบบ ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า ในโครงการนี้ไม่เพียงเสริมสร้างความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนมุมมองความคิด กระบวนการ เทคนิคการออกแบบตัดเย็บ รวมทั้งการบริหารจัดการในเชิงธุรกิจ มองกลุ่มเป้าหมายให้ชัด รู้จักจุดขาย (Unique Selling Point) ของตนเอง มองเทรนด์ให้ออกและนำมาออกแบบลดทอนให้เหมาะสม โดนใจตลาดและกลุ่มเป้าหมายของตนเอง รวมทั้งการตัดเย็บที่ประณีตสวยงามและสวมใส่ได้จริง


ครูพิระ ประเสริฐก้านตง ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2557 งานผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการออกแบบและตัดเย็บ กล่าวว่า จากที่ได้รับการอบรมเพิ่มพูนทักษะจาก SACICT อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเทคนิคการย้อม วัตถุดิบ และการสร้างเอกลักษณ์ทำให้สามารถยกระดับคุณค่าผ้าย้อมครามได้เป็นอย่างดี ต่อยอดจากผ้าผืนนำมาสู่การแปรรูป ได้เข้ามาฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้มองเห็นภาพของแบรนด์ที่ตั้งใจทำได้ชัดขึ้น เข้ามาเรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการคิด การออกแบบ เทคนิคการตัดเย็บ การตลาดและการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ตลาดในปัจจุบัน


ขณะที่ ครูปิยะ สุวรรณพฤกษ์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2560 งานผ้าปะลางิง จ.ยะลา กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้ตลาดและเทรนด์แฟชั่นโลก แล้วนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่เราทำอยู่ ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ความดั้งเดิมที่เป็นจุดเด่นของเรา แต่เสริมสิ่งที่ร่วมสมัยมากขึ้น เช่น การใช้บล็อกปรินต์หลายขนาด ทั้งเล็กใหญ่ผสมกัน หรือการใช้ลวดลายหลากหลายแบบในผืนเดียว สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้นอกจากจะได้รับความรู้ในเรื่องการออกแบบตัดเย็บ สิ่งสำคัญคือทำให้มองเห็นภาพของตัวเองชัดขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาไปสู่การสร้างแบรนด์ได้ชัดเจนและตรงจุดมากขึ้น


ที่มา : https://www.naewna.com/lady/413178

ข่าวรายวัน,สิ่งทอ,SACICT,ผ้าทอ,เส้นทางสายผ้าทอ Weaving Streets,แฟชั่น,Crafts Fashion Brand