ค้นหา
กรุณา พิมพ์สิ่งที่ท่านต้องการค้นหาที่นี่ค่ะ
ค้นหา
ปิด
TH
บริการ THTI
วิเคราะห์ทดสอบ
ฝึกอบรม
วิจัยพัฒนาเชิงพาณิชย์
ข้อมูลดิจิตอล
งานจัดแสดงสินค้า
โปรโมชั่นบริการ
นวัตกรรม
All
ECO Textile
Protective Textile
Medical Textile
Sportswear
THTI Activities
THTI Insight
วารสาร
องค์ความรู้
เทคโนโลยีสิ่งทอ
ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม
ข้อมูล นำเข้า-ส่งออก
ข่าวรายวัน
เกี่ยวกับ THTI
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
ความเป็นมา
แผนผังองค์กร
ผู้บริหารสถาบัน
คณะกรรมการสถาบัน
ผลงานสถาบันฯ
สมาคมการค้า
พันธมิตร
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
ประกาศ จัดซื้อ-จัดจ้าง
หน้าแรก
/
THTI Activities
/
เปิดนโยบาย อุตฯ "MIND" ใช้หัวและใจ ปฏิรูปกระทรวง ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ดันเศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน
เปิดนโยบาย อุตฯ "MIND" ใช้หัวและใจ ปฏิรูปกระทรวง ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ดันเศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน
02.12.2565 |
จำนวนผู้เข้าชม 887
เปิดนโยบาย อุตฯ "MIND" ใช้หัวและใจ ปฏิรูปกระทรวง ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ดันเศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน
กระทรวงอุตสาหกรรม รีแบรนด์สู่ MIND ขับเคลื่อนนโยบายปี 2566 ติดปีกภาคธุรกิจ มุ่งอุตสาหกรรมวิถีใหม่ ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมดี อยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน” เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากผ่านนโยบาย 4 มิติ ส่งเสริมธุรกิจ ดูแลสังคม รักษาสิ่งแวดล้อม และกระจายรายได้สู่ชุมชน ย้ำการทำงานด้วย “MIND” มุ่งยกระดับภาคอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ด้วย ‘หัว’ และ ‘ใจ’
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ MIND ในปี 2566 ว่า กระแสเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวรวมทั้งเศรษฐกิจไทย หลังจากวิกฤติโควิด-19 ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่า GDP ปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 3.2 และกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่า ปี 2565 GDP ภาคอุตสาหกรรมและดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI ขยายตัวร้อยละ 2.0 และร้อยละ 1.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปี 2566 เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเปราะบางจากหนี้สาธารณะของหลายประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉลี่ยเกือบ 100% อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา โดยพบว่าไทยมีปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาวะเงินเฟ้อ น้ำมันแพง ค่าเงินบาทอ่อน และดอกเบี้ยสูง ทำให้สินค้ามีการปรับราคาสูงขึ้น อีกทั้ง ปัญหาด้านโครงสร้างของอุตสาหกรรมที่เริ่มแข่งขันได้ยาก เช่น ต้นทุนด้านแรงงานและการเข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงปัญหาด้านภาพลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรมต่อประชาชน ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวม ดร.ณัฐพล กล่าวว่า จากปัจจัยข้างต้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ตามแนวคิด “อุตสาหกรรมดี อยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน” ดังนี้
1. “อุตสาหกรรม” ต้องมีภาพที่ดี ด้วยพลังของคนอุตสาหกรรม โดยใช้หลักการ "อุตสาหกรรมดี ชุมชนดี หน่วยงานดี" ร่วมกันสื่อสาร “การรวมพลังอุตสาหกรรมดี” เพื่อสร้างทัศนคติรวมถึงประสบการณ์ที่ดีให้กับประชาชนและสถานประกอบการให้มีความเชื่อมั่น เชื่อถือ และไว้วางใจ พร้อมปรับปรุงการให้บริการอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วน สามารถตรวจสอบได้ สร้างความโปร่งใสในการทำงาน ด้วยการปลูกฝังการทำดีด้วย 'หัว' และ 'ใจ" ของข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ พร้อมผลักดัน “ชุมชนรักโรงงาน โรงงานรักชุมชน และสร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชน” เพื่อให้ชุมชนและอุตสาหกรรมอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่อง
2. ทุกนโยบาย มาตรการ และกลไก มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ และให้รางวัลกับคนทำดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกระจายรายได้สู่ชุมชน การปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมสู่ S-curve ที่มุ่งเน้นการผลิตและโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประกอบด้วย มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจ การปรับธุรกิจให้เหมาะสมกับโลกอนาคต การแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุน รวมถึงเพิ่มความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรม อาทิ เกษตรอุตสาหกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ และยานยนต์แห่งอนาคต มิติที่ 2 การประกอบการที่กระทรวงดูแล ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ประชาชน มิติที่ 3 การตอบโจทย์ไทยและประชาคมโลก การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และ มิติที่ 4 การรักษาวิถีชีวิต สร้างประโยชน์ พัฒนาชุมชนรอบอุตสาหกรรม และต่อยอดอาชีพดีพร้อม โดยมุ่งเน้น “การสร้างงาน สร้างอาชีพ” ให้คนรุ่นใหม่สามารถต่อยอดอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวหรืออัตลักษณ์ชุมชน ขณะเดียวกันจะกระตุ้นผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ทำงานร่วมกับชุมชนและเครือข่ายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างจริงจัง ทั้งนี้ หากดำเนินการตามที่กล่าวมา เชื่อมั่นว่าในปี 2566 จะสามารถกระตุ้น GDP ภาคอุตสาหกรรม และ MPI ให้สูงขึ้นร้อยละ 2.5 – 3.5 และเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีถัด ๆ ไป ดร.ณัฐพล กล่าว
โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นางสุดา ยังให้ผล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรม สถาบันฯสิ่งทอ รวมทั้งผู้อำนวยการสถาบันเครือข่าย ของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง
Print this
สิ่งทอ,สิ่งทอ
กรมหม่อนไหมจัดกิจกรรมเสริมศักยภาพบุคลากรด้านการทดสอบฯ ณ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ย้อนกลับ
สถาบันฯสิ่งทอ ร่วมจัดแสดงงานวิจัยกัญชงในงาน ASIA International HEMP EXPO 2022
ถัดไป
THTI Activities